วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2561

All-New Hyundai Veloster N สปอร์ตแฮตซ์แบ็คตัวแรงสุดจี๊ดคันล่าสุด

 นอกจาก All-New Hyundai Veloster รุ่นปกติที่ได้นำเสนอไปในบทความ All-New Hyundai Veloster โฉมใหม่ของสปอร์ตแฮตซ์แบ็คสุดแนว หากใครคิดว่ายังไม่เร้าใจพอ ทาง Hyundai ยังมีเวอร์ชั่นสมรรถนะสูงอีกคัน "Hyundai Veloster N" มาให้เลือกด้วยเช่นเดียวกัน

  ภายนอกมีการออกแบบกันชนหน้าให้ดุกว่ารุ่นปกติตกแต่งด้วยแถบสีแดง ด้านข้างติดตั้งสเกิร์ตสีดำพร้อมแถบสีแดง ส่วนด้านท้ายมากับกันชนที่ดูดุดันกว่าเดิมตกแต่งด้วยแถบสีแดงบริเวณครีบรีดอากาศ ท่อไอเสียคู่ขนาดใหญ่กว่าเดิมแบบแยกฝั่ง สปอยเลอร์ด้านท้ายดีไซน์ใหม่พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ล้อจะมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 18 หรือ 19 นิ้ว พร้อมยาง  Michelin Pilot SuperSport ขนาด 225/40 หรือ Pirelli P-Zero rubber ขนาด 234/35 ตามลำดับ

  สีตัวถังจะมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ Ultra Black, สีขาว Chalk White, สีแดง Racing Red และสีฟ้า N-exclusive Performance Blue

  ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ต พวงมาลัยและหัวเกียร์ดีไซน์พิเศษ นอกจากนั้นแล้วยังมีแผ่นสครับเพลทพร้อมสัญลักษณ์ N , มาตรวัดดีไซน์พิเศษ N-design และการตกแต่งภายในที่เน้นโทนสีฟ้า

  ขุมพลังจะทำการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบเทอร์โบชาร์จ มากับพละกำลัง 275 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 353 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ทาง Hyundai ยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขอัตราเร่งออกมา แต่คาดว่าน่าจะใกล้เคียงกับ i30 N ที่ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ไว้ที่ 6.1 วินาที

  Hyundai Veloster N จะสร้างความสนุกในการขับขี่โดยเฉพาะเวลาเข้าโค้ง โดยตัวรถมีการปรับปรุงแซสซีส์เพิ่มเติมจากรุ่นปกติ ปรับจูนแรงบิดให้มีความต่อเนื่อง ปรับองศาการเข้าโค้งให้ลดลงจากเดิม รวมทั้งติดตั้งสตรัทบาร์ด้านหลังอันส่งผลให้การขับขี่ขณะเข้าโค้งหนึบแน่นเกาะถนนมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีโหมดการขับขี่พิเศษ "N" ที่สามารถรองรับการขับขี่ในสนามได้อีกด้วย

  All-New Hyundai Veloster N ติดตั้งชุดเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิปที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็คทรอนิกส์ช่วยให้เกาะถนนมากขึ้น ติดตั้งระบบเบรกแบบดิสก์เบรก 4 ล้อหน้าหลังที่มีขนาดจานเบรก 13 นิ้วและ 11.8 นิ้วตามลำดับ ลูกค้ายังสามารถเลือกออปชั่นจานเบรกหน้าหลังขนาด 13.6 นิ้วและ 12.4 นิ้วตามลำดับได้ด้วย

    All-New Hyundai Veloster N จะขึ้นสายการผลิตที่เมืองอูลซาน เกาหลีใต้ในเดือนกันยายนปีนี้

ที่มา Carscoops
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box