จะเห็นว่าภายนอกของรถได้รับการออกแบบตามสไตล์ Ford ยุคใหม่ มากับกระจังหน้าทรง 6 เหลี่ยมอันโดดเด่น ปรับงานดีไซน์ของกันชนหน้าใหม่ ไฟหน้าแบบ Bi-Xenon พร้อมไฟ Daytime Running Lights ภายในโคม ส่วนด้านท้ายได้ปรับการออกแบบไฟท้ายและกันชนท้ายใหม่ให้ดูโดดเด่นและสะดุดตายิ่งขึ้น ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ 17-19 นิ้ว และยังมีสีตัวถังใหม่ Copper Pulse มาให้เลือกอีกด้วย
ภายในห้องโดยสารมีการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัด คอนโซลกลางมากับหน้าจอสัมผัสชุดใหม่ขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่ล่าสุด SYNC3 รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto นอกจากนั้นแล้ว Ford ยังแทนที่เบรกมือเดิมด้วยเบรกมือแบบไฟฟ้า พวงมาลัยชุดใหม่พร้อมปุ่มควบคุมที่ออกแบบให้ใช้งานง่ายขึ้น
เครื่องยนต์ใหม่ล่าสุดที่มาประจำการคือเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตรที่มากับพละกำลัง 120 แรงม้า มีให้เลือกแค่ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น มากับอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 22.73 กม./ลิตร อัตราการปล่อย CO2 เฉลี่ย 115 กรัม/กม.
นอกจากนั้นแล้วยังมีเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรดีเซล TDCi 150 แรงม้า มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า กับขับเคลื่อน 4 ล้อ ตามด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร TDCi 180 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Ford’s Intelligent All Wheel Drive ส่วนเครื่องยนต์เบนซินก็จะมี 1.5 ลิตร Ecoboost พละกำลัง 120 แรงม้า กับ 150 แรงม้า กับระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ปิดท้ายด้วยขุมพลังบล็อกเดียวกับ แต่รีดสมรรถนะได้ 182 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
Ford Escape / Kuga Minor Change จะวางขายในยุโรปช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ส่วนไทยไม่มีแผนนำเข้ามาขายครับ
ที่มา Carscoops
มาร่วมติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่นี่ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย