ดีไซน์ภายนอกมากับชุดกระจังหน้าซี่ลวดแนวตั้งกับชื่อเรียกกี๊บเก๋ Panamericana Grille และการออกแบบกันชนเหมือนกับที่พบเจอในสปอร์ตรุ่นใหญ่อย่าง AMG GT รุ่นล่าสุดเลย ส่วนด้านท้ายมีการออกแบบกันชนให้ดุขึ้นพร้อมท่อคู่ 2 ข้าง ทั้ง GLC และ GLC Coupe ตัวแรงจะได้ล้อขนาด 19 นิ้ว หุ้มด้วยยางขนาด 235/55 ที่ด้านหน้าและ 255/50 ที่ด้านหลัง ในขณะที่รุ่น "S" จะมากับล้อขนาด 20 นิ้วหุ่มยาง 265/45 R 20 ที่ด้านหน้าและ 295 / 40 R 20 ที่ด้านหลัง
ภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งชุดหน้าปัดวัดความเร็วด้วยโทนที่ดูดุดันมากยิ่งขึ้น ตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่แผงคอนโซล และเบาะนั่งแบบสปอร์ต ลูกค้าสามารถจ่ายเงินเพิ่มเพื่อเอาเบาะหนังแท้ได้เนื่องจากปกติจะใช้หนังเทียมแบบ MB-Tex และผ้า DINAMICA Microfiber เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว รวมทั้งยังมีออปชั่นอื่นๆให้เลือกอีก
สำหรับเครื่องยนต์นั้นจะใช้เครื่องเบนซิน 4.0 ลิตร V8 ทวินเทอร์โบ มากับพละกำลัง 469 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดถึง 650 นิวตัน-เมตร ส่วนรุ่นที่มีรหัส S ต่อท้ายจะเพิ่มพละกำลังเป็น 503 แรงม้า พร้อมแรงบิด 700 นิวตัน-เมตร ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT MCT 9 สปีด และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC+ กับเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป ที่สามารถช่วยกระจายแรงบิดจากด้านหน้าไปสู่ด้านหลังได้อย่างรวดเร็ว
อัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. สามารถทำเวลาได้ 3.9 วินาที ในรุ่นธรรมดา และ 4 วินาทีในรุ่น Coupe ส่วนรุ่น S จะมีอัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ในเวลา 3.7 วินาที ในรุ่นธรรมดา และ 3.8 วินาทีในรุ่น Coupe ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. ทุกรุ่น
ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ผ่านทางระบบ AMG DYNAMIC SELECT โดยมีให้เลือก 4 โหมดได้แก่ "Comfort," "Sport," "Sport+" และ "Individual" และสำหรับรุ่น Coupe จะเพิ่มโหมด “Race” มาให้ด้วย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนพิเศษของ AMG มีระบบควบคุมช่วงล่างที่ปรับเปลี่ยนได้ 3 ระดับ (Comfort, Sport and Sport +) และระบบปรับการตอบสนองพวงมาลัยที่มีให้เลือก 2 โหมด (Comfort และ Sport)
Mercedes-AMG GLC63 และ GLC63 Coupe จะไปเปิดตัวที่นิวยอร๋คสัปดาห์หน้า และจะเริ่มวางขายทั่วโลกตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไป
ที่มา Carscoops
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย