วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2562

All-New Chevrolet Tahoe & Suburban สองเอสยูวีหรูรุ่นใหญ่จากแดนลุงแซม

   Chevrolet ได้ทำการเปิดตัว 2 SUV หรูรุ่นใหญ่เจเนเรชั่นใหม่ อย่าง Chevrolet Tahoe และ Suburban มีสิ่งที่น่าสนใจคือ   การติดตั้งระบบช่วงล่างแบบ multi-link และ ระบบช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระ

  รถถูกสร้างขึ้นแพลตฟอร์ม T1 ของ GM ซึ่งจะถูกใช้ใน Cadillac Escalade และ GMC Yukon โฉมใหม่ที่จะเปิดตัวตามมาอีกด้วย แพลตฟอร์มนี้ยังมากับโครงสร้างแพตลฟอร์มระบบไฟฟ้า Global B ของ GM และรองรับการอัปเดตแบบ Over The Air ใหม่ และมากับความปลอดภัยของเครือข่ายขั้นสูงสำหรับเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ

  ดีไซน์ภายนอกของทั้งสองมีการอิงการออกแบบจากกระบะ Chevrolet Silverado รุ่นล่าสุด เห็นได้ชัดจากด้านหน้าดีไซน์ใหม่ที่มากับกระจังหน้าขนาดใหญ่ขึ้น และไฟหน้าใหม่ขนาดเล็กลงพร้อมไฟ LED Daytime Running Lights ทรงบูมเมอแรง ส่วน Suburban นั้นก็คือ Tahoe ในเวอร์ชั่นที่ยึดขยายตัวถังให้ยาวขึ้นอีก เห็นชัดจากช่วงประตูหลังเป็นต้นไปที่มีความแตกต่าง 

  อีกไฮไลต์ที่น่าสนใจคือ Tahoe Z71 ทีมีการตกแต่งสไตล์ออฟโรดพร้อมยกช่วงล่างให้สูงขึ้น

   ทั้ง Tahoe และ Suburban รุ่น High Country และ Z71 จะติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบ Air Ride Adaptive Suspension ที่นำเสนอการปรับระดับความสูงของรถได้อัตโนมัติ ผู้ขับขี่สามารถปรับความสูงรถได้มากสุด 4 นิ้ว (101 มิลลิเมตร) เมื่อขับบนทางหลวงระบบจะลดความสูงลงราวๆ 19 มิลลิเมตร เพื่อปรับปรุงอากาศพลศาสตร์และประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงของรถ

  ลูกค้าสามารถปรับความสูงของรถลดลงอีก 2 นิ้ว (51 มิลลิเมตร) เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารเข้าและออกรถได้ง่ายเมื่อจอดรถ ผู้ขับขี่ยังสามารถเพิ่มความสูงรถได้อีก 1 นิ้ว (25 มิลลิเมตร) เมื่อขับรถออฟโรดในโหมด 4WD Hi และเพิ่มได้อีก 1 นิ้วในโหมด 4WD LO

  สำหรับขนาดของตัวรถนั้น ทาง Chevrolet ได้ยืดระยะฐานล้อของ Tahoe ให้ยาวขึ้น 124 มิลลิเมตร ทำให้รถมีความยาวมากกว่าก่อนถึง 170 มิลลิเมตร ส่วน Suburban นั้นระยะฐานล้อถูกเพิ่มให้ยาวขึ้นอีก  104 มิลลิเมตร และทำให้รถยาวขึ้น 33 มิลลิเมตร

  นั่นส่งผลให้พื้นที่เก็บของด้านหลังของ Tahoe ในแถวที่สามเพิ่มขึ้นถึง 66% โดยมีความจุรวมที่ 3,480 ลิตร ในขณะที่ Suburban จะมีพื้นที่เก็บสัมภาระเพิ่มขึ้น 19% โดยมีความจุรวมเป็น 4,097 ลิตร นอกจากนี้ยังส่งผลให้ผู้โดยสารแถวที่สามใน Tahoe ได้รับพื้นที่วางขาเพิ่มเติม 10 นิ้วในขณะที่แถวที่สองและแถวที่สามของ Suburban ได้พื้นที่วางขาเพิ่มขึ้น 2 นิ้ว

   ในส่วนของเครื่องยนต์นั้นจะติดตั้ง
- เครื่องยนต์เบนซินขนาด 5.3 ลิตร V8 พละกำลัง 335 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 519 นิวตันเมตรที่ 4,100 รอบ/นาที
-เครื่องยนต์เบนซินขนาด 6.2 ลิตร V8 พละกำลัง 420 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 623 นิวตันเมตรที่ 4,100 รอบ/นาที
  เครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นมีเทคโนโลยีการจัดการเชื้อเพลิงแบบไดนามิกโดยมีโหมดปิดใช้งานกระบอกสูบมากกว่า 12 โหมด
  นอกจากนี้ยังมีเครื่องดีเซลเทอร์โบดูราแม็กซ์ 3.0 ลิตร แถวเรียง 6 สูบซึ่งมีให้เลือกติดตั้งทุกรุ่นยกเว้นใน Z71 มีพละกำลัง 277 แรงม้าที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 623 นิวตันเมตรที่ 1,500 รอบ/นาที โดยทาง Chevrolet เคลมว่าจะประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดในกลุ่ม

  ลูกค้าที่ซื้อรถแนวนี้มักจะนำรถมาลากจูงด้วย ดังนั้นทั้ง Tahoe และ Suburban จะติดตั้งเทคโนโลยีลากจู
งของ Silverado ด้วย ไม่ว่าจะเป็นแพ็คเกจ Max Trailering , ระบบ Integrated trailer brake controller, ระบบควบคุมกล้องหลัง  Hitch Guidance พร้อมคุณสมบัติ Hitch View และแอป Chevrolet Trailering พร้อมกันนี้ยังติดตั้งกล้องรอบคันไม่น้อยกว่า 9 ตัว

   Tahoe และ Suburban ยังติดตั้งอีก 30 เทคโนโลยีความปลอดภัยที่มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้า, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบวัดระยะห่างจากรถคันหน้า, ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อตรวจพบคนเดินเท้า, ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ, ระบบควบคุมไฟหน้าอัตโนมัติ IntelliBeam, ระบบแจ้งเตือนคนเดินเท้าจากทางด้านหลัง, ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในเลน พร้อมระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนและอื่น ๆอีกมากมาย

   ภายในติดตั้งระบบ Infotainment หน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้วรองรับระบบ Infotainment Chevrolet 3 ระบบนี้ยังรวมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 8 นิ้วในแผงหน้าปัดอันเป็นมาตรฐานสำหรับรุ่น Premier และ High Country ในขณะที่รุ่นรองลงมาใช้หน้าจอ 4.2 นิ้ว

   นอกจากนี้ยังมีจอแสดงผล Head-Up Display ขนาด 15 นิ้วรวมถึงระบบความบันเทิงด้านหลังที่มีหน้าจอสัมผัสขนาด 12.6 นิ้ว และยังมีฮอตสปอต WiFi รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto, พอร์ตชาร์จ USB หลายจุดและแท่นชาร์จไร้สาย

  Chevrolet  ยังไม่ได้ประกาศรายละเอียดราคาสำหรับรุ่นใดรุ่นหนึ่งทั้งนั้น แต่ใ
ทั้ง Chevrolet Tahoe และ Suburban จะเริ่มจำหน่ายในสหรัฐช่วงกลางปี ​​2020

ที่มา Carscoops 

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box