วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เปิดตัวในไทย MG6 Minor Change เพิ่มออปชั่นและเทคโนโลยีในราคาที่ถูกลง

 หลังจากเข้ามาเปิดตลาดในไทยเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา ด้วยรถซีดานคันเก่งอย่าง MG6 ปรากฏว่าไม่ได้เปรี้ยงปร้างสักเท่าไหร่นัก อาจจะเป็นเพราะราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่อยู่ในตลาดมานานมากแล้ว อีกทั้งยังเป็นเรื่องของระบบต่างๆของรถที่ยังไม่ดีพอ รวมทั้งในตลาดโลกก็มีการปรับโฉมกันแล้ว นั่นทำให้ MG ต้องทำการปรับโฉมให้กับ MG6 ในไทยตามทันตลาดโลกด้วย พร้อมทั้งแก้ไขอะไรต่างๆให้ดีขึ้นด้วย

   และล่าสุดตอนนี้ MG ก็พร้อมแล้วกับการเปิดตัว MG6 Minor Change ในเมืองไทย ที่ได้ทำการปรับปรุงโฉมใหม่และเพิ่มเติมอะไรใหม่ๆหลายอย่างเพื่อความสมบูรณ์แบบที่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม หวังสร้างส่วนแบ่งในตลาดเมืองไทยที่มากกว่าที่เป็นอยู่

   ภายนอกได้รับการปรับปรุงใหม่หลายจุดด้วยกัน เริ่มที่หน้าตาที่ออกแบบให้เข้ายุคสมัยกว่าเดิม ออกแบบรายละเอียดไฟหน้าใหม่แบบ Bi-Xenon HID พร้อมระบบฉีดล้างไฟหน้า Headlight Washer ออกแบบกันชนหน้าใหม่ให้ดูดุดันกว่าเดิม พร้อมติดตั้งไฟ Daytime Running Lights บริเวณด้านล่าง พร้อมล้ออัลลอยลายใหม่ดูงามตากว่าเดิม ไฟท้ายแบบ LED ออกแบบรายละเอียดใหม่ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และออกแบบกันชนท้ายให้ดูสปอร์ตดิบกว่าเดิมด้วย โดยรวมน่าจะสวยเตะตาใครๆหลายคนไม่น้อย




 ภายในก็ได้รับการปรับปรุงใหม่เล็กน้อย และเพิ่มเติมอะไรหลายๆอย่าง โดยทางค่ายออกแบบหน้าปัดแบบใหม่ให้ดูสปอร์ตกว่าเดิม ระบบอินโฟเทนเมนต์ติดตั้งจอขนาด 7 นิ้วพร้อมระบบนำทาง ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และสามารถเชื่อมต่อ USB AUX ได้ เต็มอิ่มความบันเทิงกับลำโพง 8 ตัว สะดวกสบายกับระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแบกแยกโซนซ้ายขวา และ เบาะนั่งด้านหลังปรับพับแบบ 60 : 40

   จุดขายสำคัญของ MG6 Minor Change คือการนำเสนอระบบ inkaNet ที่สามารถเชื่อมต่อ สื่อสาร สั่งการรถยนต์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สายและสามารถใช้งานและสั่งการได้ผ่านสมาร์ทโฟน และบน PC ฟรีค่าบริการเชื่อมต่อระบบ 5 ปี โดยระบบจะทำงานผ่านกล่องควบคุมที่เรียกว่า T-Box โดยเป็นตัวกลางที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างรถยนต์กับผู้ขับ สามารถใช้งานผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ Application inkaNet บนสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android, เว็บไซท์ www.mgcars.com ผ่านหน้าจอ PC และ MG Call Centre (1-800-999-988, 1-401-999-988 กด 3) 

   นอกจากนี้ระบบ inkaNet สามารถตรวจสอบสถานะของรถยนต์ (Vehicle Status Update) โดยแจ้งข้อมูล และยังสามารถควบคุมการทำงานของรถ (Remote Vehicle Control)  มีระบบการเตือนความผิดปกติของรถยนต์ (Vehicle Alarm) มีระบบนำทางและติดตามรถยนต์แบบ Real-Time (Real-time Vehicle Monitoring) และการตรวจวิเคราะห์รถยนต์ (Remote Vehicle Diagnosis) ช่วยอำนวยความสะดวกในกรณีที่เกิดความผิดปกติระหว่างการขับ

   สำหรับขุมพลังของรถนั้น MG6 คันนี้ได้ตัดทางเลือกเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ไร้เทอร์โบทิ้งไป เหลือไว้แค่เครื่องยนต์ 1.8 ลิตรเทอร์โบ มากับพละกำลัง 161 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 215 นิวตัน-เมตรที่ 2,000-4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ Dual Clutch 6 สปีด ที่แก้ไขสมองกลเกียร์ให้ทำงานไวกว่าเดิม และที่สำคัญรองรับเชื้อเพลิงได้ถึง E85 แล้วด้วยครับ

   ระบบความปลอดภัยของรถนั้น ได้นำเสนอระบบความปลอดภัยใหม่ 5 อย่าง ได้แก่
- ระบบ Auto Hold ไม่ต้องเหยียบเบรคค้างไว้ในช่วงการจราจรติดขัด และสามารถออกตัวได้ทันทีเมื่อแตะคันเร่ง
- ระบบ DWTC - Dynamic Wheel Torque Control ควบคุมแรงบิดของล้อในขณะเข้าโค้ง
- ระบบ Steering Wheel Reminder แจ้งเตือนทิศทางของพวงมาลัยหลังสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยระบบจะทำการแจ้งเตือน เมื่อพวงมาลัยถูกหมุนไปจากทิศทางตรงเกินกว่า 90 องศา ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุขณะออกตัว
- ระบบ Cornering Lights ไฟส่องสว่างด้านข้างทำงานอัตโนมัติขณะเลี้ยว 
- ระบบ Auto-Leveling Headlights ปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ ช่วยป้องกันไม่ให้แสงจากไฟหน้ารบกวนผู้ขับขี่คันหน้า หรือผู้ที่ขับขี่ในฝั่งตรงข้าม 

นอกจากนี้ก็ยังมีระบบความปลอดภัยอีกหลายอย่างครับ ได้แก่
- ถุงลมนิรภัย 6 ใบ
- ระบบเบรค ABS พร้อม EBD และ EBA
- ระบบ Stability Control System ควบคุมการทรงตัว
- ระบบ Curve Brake Control ควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง
- ระบบ Motor Control Slide Retainer ป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน
-ระบบ Traction Control System ป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล
-ระบบ Brake Disc Cleaning ทำความสะอาดจานเบรกอัจฉริยะ
- ระบบ Hill Start Assist System ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน
- ระบบ ITPMS - Indirect Tire Pressure Monitor System ตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง 

   สำหรับราคาค่าตัวของรถนั้นทาง MG ได้ปรับราคาให้ถูกกว่าเดิมในหลายรุ่นย่อย มีสีตัวถังให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีขาว สีดำ สีแดง สีเทา สีเงิน และยังมีออปชั่นสีพิเศษในรุ่น Fastback โดยเป็นสีขาวหลังคาดำ โดยแบ่งราคาตามตัวถังดังนี้ครับ
รุ่น Sedan 4 ประตู

- 1.8 C ราคา 818,000 บาท
- 1.8 D ราคา 898,000 บาท
- 1.8 D Sunroof ราคา 928,000 บาท
- 1.8 X ราคา 998,000 บาท
- 1.8 X Sunroof ราคา 1,028,000 บาท
รุ่น Fastback 5 ประตู
- 1.8 C ราคา 828,000 บาท
- 1.8 D ราคา 908,000 บาท
- 1.8 D Sunroof ราคา 938,000 บาท
- 1.8 X ราคา 1,008,000 บาท
- 1.8 X Sunroof ราคา 1,038,000 บาท

โดยชาวไทยจะได้สัมผัส MG6 Minor Change และชมภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ได้ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมเป็นต้นไปครับ
มาร่วมพูดคุยกันสนุกๆเรื่องรถยนต์ประดุจเพื่อนข้างกาย 
พร้อมเกาะติดข่าวการเปิดตัวรถใหม่กันแบบฉับไว
กดไลค์แฟนเพจของ Cars New Update ด้านล่างได้เลยครับ!!!
   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box