วันเสาร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2560

เผยโฉมแล้วกับ All-New Mazda CX-5 โฉมมาเลเซีย เมืองไทยเจอกัน 13 พฤศจิกายนนี้!

  ที่เพื่อนบ้านเราอย่างมาเลเซียได้ทำการพรีวิว All-New Mazda CX-5 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีพิธีเปิดตัวที่โรงงาน Inokom ในเขต Kulim รัฐ Kedah ของมาเลเซียนั่นเอง ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นช่วงเดือนตุลาคม

ส่วนเมืองไทยก็อดใจรออีกไม่กี่เดือน เพราะ  All-New Mazda CX-5 จะเปิดตัวในไทยภายในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ หรืออีกแค่ 40 กว่าวันเท่านั้นเอง โดยเปิดตัวตามหลังมาเลเซียไม่นาน และแน่นอนว่าไทยยังคงนำเข้าจากมาเลเซียเหมือนเดิม แต่ก่อนอื่นนั้นเรามาดูกันก่อนดีกว่าว่า All-New Mazda CX-5 ของมาเลเซียมีอะไรน่าสนใจบ้าง

   All-New Mazda CX-5 ของมาเลเซีย จะมีทางเลือกเครื่องยนต์ด้วยกัน 3 แบบ คือ
- เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Skyactiv-G พละกำลัง 162 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที
- เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร Skyactiv-G พละกำลัง 192 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 257 นิวตัน-เมตรที่ 3,250 รอบ/นาที
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร Skyactiv-D พละกำลัง 173 แรงม้าที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที
ทุกขุมพลังจะจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง G-Vectoring Control (GVC) มาเป็นมาตรฐาน ระบบขับเคลื่อนในตัวเบนซินทุกรุ่นจะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ยกเว้นเครื่องดีเซล 2.2 ลิตรที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อให้เลือก


ส่วนเมืองไทยแน่นอนว่ายังมีทางเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบเช่นเคย คือ เบนซิน 2.0 ลิตรและดีเซล 2.2 ลิตร และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อก็อยู่ในรุ่นดีเซลเหมือนเดิมเช่นเคย

  All-New Mazda CX-5 จะมีทางเลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น 2.0G 2WD GL ราคา 134,605.50 ริงกิต (ประมาณ 1,062,000 บาทไทย) จะได้ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED พร้อมไฟ DRL,ไฟท้ายหลอดไส้,และไฟตัดหมอก,ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมยางขนาด 225/65,เบาะนั่งด้านหน้าปรับมือ,ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual-zone พร้อมช่องปรับอากาศด้านหลังและปุ่มสตาร์ท

นอกจากนี้ก็จะมีช่องเสียบ USB ด้านหลัง,เบาะนั่งหุ้มผ้า,ธีมการตกแต่งภายในสี Gun Metallic , ปุ่มควบคุม Commander Control และระบบ Infotainment หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วรองรับ MZD Connect พร้อมลำโพง 6 ตัว ชุดอุปกรณ์ความปลอดภัยจะมากับถุงลมนิรภัย 6 ใบ (คู่หน้า+ด้านข้าง+ม่าน) ABS พร้อม EBD, ระบบเสริมแรงเบรก BA, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (DSC) และระบบป้องกันการลื่นไถล Traction Control

- รุ่น 2.0G 2WD GLS ราคา 148,605.50 ริงกิต (ประมาณ 1,173,000 บาทไทย) สิ่งที่ได้เพิ่มเติมเข้ามาก็คือไฟ LED ทั้งหน้าและท้าย , เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง , เบาะนั่งหุ้มหนัง , ระบบปรับลำแสงไฟหน้า Adaptive Front-Lighting System (AFS) , ตกแต่งภายในด้วยลายไม้และโลหะ , ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องและออกจากรถ Walk Away Lock และ กุญแจ Keyless Entry

ระบบความปลอดภัยก็จะมีระบบ i-ACTIVSENSE เพิ่มเติม ได้แก่ ระบบ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Blind Spot Monitoring (BSM), ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA), ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ Forward Smart City Brake Support (SCBS) และ เซนเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลัง ด้านละ 4 จุด

- รุ่น 2.5G 2WD GLS ราคา 160,996.70 ริงกิต (ประมาณ 1,271,000 บาทไทย) สิ่งที่ได้เพิ่มเติมเข้ามาก็คือ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/55

- รุ่น 2.2D 2WD GLS ราคา 164,579.10 ริงกิต (ประมาณ 1,299,000 บาทไทย)  และ 2.2D AWD GLS ราคา 164,579.10 ริงกิต (ประมาณ 1,383,000 บาทไทย) ความต่างของสองรุ่นนี้คือระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อนั่นเอง แต่สิ่งที่ได้เพิ่มจากรุ่นเบนซินก็คือ ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน Lane Departure Warning System (LDWS), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keep Assist System (LKA), ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse) , ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Driver Attention Alert (DAA) และ ระบบปรับไฟหน้า LED อัจฉริยะ Adaptive LED Headlights (ALH) นอกจากนี้ตัวดีเซลยังได้จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีขนาด 4.6 นิ้วมาด้วย ต่างจากรุ่นเบนซินที่เป็นสีขาวดำ

  และคราวนี้สิ่งที่หลายคนรอคอยก็คือ สีแดงใน Mazda CX-5 ซึ่งคราวนี้มันมาแล้วครับ! เป็นเหตุผลอันเนื่องมาจากทาง Mazda มาเลเซียได้เปิดโรงงานพ่นสีแห่งใหม่ Inokom ในเขต Kulim รัฐ Kedah ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลโดยตรงต่อรถที่จะมาขายในไทยด้วย นั่นทำให้คนไทยจะมีโอกาสใช้สีแดงใน CX-5 เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านเราเลยครับ โดยสีพรีเมี่ยมอันได้แก่ สีแดง Soul Red Crystal (ที่ต่อยอดมาจาก Soul Red Metallic), Machine Gray และ Snowflake Pearl White Pearl Mica จะต้องจ่ายเงินเพิ่ม 2,000 ริงกิต หรือประมาณ 15,600 บาทไทย

 ใครที่กำลังรอคอยตอนนี้ก็เตรียมทุบกระปุกรอได้เลยครับ...

ที่มา Paultan

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box