ภายนอกมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่หลายคนก็กังขาว่านี่คือรุ่น Minor Change หรือ Model Change กันแน่เพราะทรงไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่แท้จริงแล้วมันคือโฉมใหม่ Model Change ครับ แนวการออกแบบโดยรวมของรถนั้นจะนำเอาดีไซน์จากรถ SUV รุ่นพี่อย่าง CX-9 มาปรับใช้ โดยมากับชุดไฟหน้าทรงใหม่ที่ดูเรียวขึ้น กระจังหน้าขนาดใหญ่โตขึ้นพร้อมตะแกรงลายรังผึ้งที่ทำให้ดูสปอร์ต และแน่นอนว่ารถคันนี้ยังคงยึดติดแนวการออกแบบ Kodo Design อีกเช่นเคย
ด้านข้างมีความคล้ายรุ่นเดิมอย่างมาก แต่มีการปรับเส้นสายตัวรถให้ตรงขนานกับพื้นตัวถัง พร้อมกันนี้ยังเพิ่มเติมขอบโครเมียมบริเวณกรอบประตูเพื่อเพิ่มเติมความหรูหรา ในส่วนของด้านท้ายจะมากับไฟท้ายใหม่ที่ดูเรียวกว่าเดิม และมีดีไซน์ที่ได้กลิ่นมาจากรุ่นพี่ CX-9 เช่นกัน ฝาท้ายสามารถเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า สำหรับเวอร์ชั่นไทยยังมีอีกหนึ่งความพิเศษก็คือ มีติดตั้งหลังคาซันรูฟมาให้ด้วย (เฉพาะตัวท็อป) ล้ออัลลอยของรถมีให้เลือกทั้งแบบ 17 และ 19 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย
ขนาดลำตัวของ All-New Mazda CX-5 มีขนาดความยาว 4,550 มิลลิเมตร (ยาวกว่าเดิม 10 มิลลิเมตร) กว้าง 1,840 มิลลิเมตรเท่ารุ่นเดิม และสูง 1,680 มิลลิเมตร (เตี้ยลง 30 มิลลิเมตร) มีระยะฐานล้อยาว 2,700 มิลลิเมตรเท่ารุ่นเดิม
ภายในห้องโดยสารออกแบบใหม่หมดและเน้นความหรูหรามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม มีการบุหนังและเดินด้ายตะเข็บจริงบริเวณคอนโซลหน้า มาพร้อมพวงมาลัย 3 ก้านชุดใหม่แบบเดียวกับที่เราเห็นมาแล้วใน Mazda 2 MY2017 ,3 Minor Change , CX-3 MY2017 บนหน้าปัดติดตั้งจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 4.6 นิ้ว รวมทั้งติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วตำแหน่งการวางคล้ายคลึงกับรถหรู Mercedes-Benz รองรับการเชื่อมต่อ MZD Connect เช่นเคยสามารถควบคุมผ่านทางปุ่ม Center Commander ะบบความบันเทิงเต็มอิ่มจากลำโพงคุณภาพ Bose 10 ลำโพง นอกจากนี้ก็จะมีจอ Head-Up Display , เบรกมือไฟฟ้าและอื่นๆอีกมากมาย
ทางด้านขุมพลังนั้นในไทยจะมีทางเลือก 2 แบบด้วยกัน
- เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Skyactiv-G พละกำลัง 165 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร Skyactiv-D พละกำลัง 175 แรงม้าที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที
ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ SkyActiv-Drive 6 สปีด และมากับระบบขับเคลื่อนล้อหน้า เฉพาะดีเซลตัวท็อปที่ได้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
สำหรับระบบความปลอดภัยของรถนั้นไว้ใจได้เพราะทาง Mazda จัดมาเต็มไม่มีกั๊กโดยมีระบบต่างๆดังนี้
-
กุญแจนิรภัย (Immobilizer) สัญญาณกันขโมย (Burglar Alarm) และระบบล็อคและปลดล็อคประตูอัตโนมัติ
-
ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบ Auto Hold
-
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย รวม 6 ตำแหน่ง
-
ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด รุ่น 2.0 S ขึ้นไป
-
กล้องมองหลัง
-
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
-
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic
Alert)
-
ระบบปรับมุมลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติตามการเลี้ยวของรถ AFS (Adaptive Front-lighting System) เฉพาะรุ่น 2.0 S และ XD
- ระบบปรับไฟหน้า
LED อัจฉริยะ ALH
(Adaptive
LED Headlamps) เฉพาะรุ่น 2.0 SP และ XDL
-
ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System) เฉพาะรุ่น 2.0 SP และ XDL
-
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-keep Assist System) เฉพาะรุ่น 2.0 SP และ XDL
-
ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ SCBS (Smart City Brake Support) เฉพาะรุ่น 2.0 SP และ XDL
-
ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse) เฉพาะรุ่น 2.0 SP และ XDL
-
ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert) เฉพาะรุ่น 2.0 SP และ XDL
-
ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS (Smart Brake Support) เฉพาะรุ่น 2.0 SP และ XDL
-
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC
(Mazda Radar Cruise Control) เฉพาะรุ่น 2.0 SP และ XDL
-
ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control)
-
ระบบป้องกันล้อล็อค 4W-ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบช่วยเบรก BA
-
ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC (Dynamic Stability Control)
-
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
-
ระบบช่วยออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist)
-
ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Signal System)
- สีแดง Soul Red Crystal
- สีเทา Machine Gray
- สีขาวมุก Snow Flake White Pearl
- สีน้ำเงิน Deep Crystal Blue
- สีบรอนซ์เงิน Sonic Silver
- สีดำ Jet Black
All-New Mazda CX-5 มีทางเลือกรุ่นย่อยทั้งหมด 5 รุ่นย่อย แบ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 3 รุ่นย่อย และดีเซล 2 รุ่นย่อย
เบนซิน
2.0 C ราคา 1,290,000 บาท (เพิ่มจากโฉมเก่า 70,000 บาท)
2.0 S ราคา 1,400,000 บาท (เพิ่มจากโฉมเก่า 70,000 บาท)
2.0 SP ราคา 1,530,000 บาท (รุ่นย่อยใหม่)
ดีเซล
XD ราคา 1,560,000 บาท (เพิ่มจากโฉมเก่า 30,000 บาท)
XDL ราคา 1,770,000 บาท (เพิ่มจากโฉมเก่า 80,000 บาท)
MAKE ALL CHAPTERS REMARKABLE" ใครสนใจไปชมรถคันจริงหรือทดลองขับสามารถไปชมกันได้แล้วที๋โชว์รูม Mazda ทั่วประเทศครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย