วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Tesla Semi รถบรรทุกแห่งอนาคตมาพร้อมระบบช่วยการขับขี่อัตโนมัติ

 นอกจาก Tesla Roadster ที่ได้ทำการเผยโฉมในเวทีการเปิดตัวรถใหม่ของ Tesla ยังมีอีกหนึ่งคันที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ Tesla Semi รถบรรทุกพลังงานจากแบตเตอรี่ไฟฟ้่ดีไซน์ล้ำอนาคตที่ทางบริษัทหมายมั่นปั้นมือให้ "มอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้ขับขี่รถบรรทุก และยังเพิ่มความปลอดภัย ลดต้นทุนการขนส่งสินค้า" อีกด้วย

   ดีไซน์ภายนอกมาแนวเรียบๆแต่ล้ำกว่ารถบรรทุกรุ่นอื่นๆเลยก็ว่าได้ ภายในยิ่งล้ำกว่าด้วยภายในห้องโดยสารที่มีการวางตำแหน่งคนขับไว้ตรงกลางรถ มีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 2 จอ (จอชุดเดียวกับ Tesla Model 3) ขนาบกันอยู่ข้างๆพวงมาลัย หน้าจอชุดนี้ยังเชื่อมต่อกับระบบบริหารการจัดการพาหนะเพื่อช่วยให้การกำหนดเส้นทางและช่วงเวลาในการเดินทาง ยังรวมถึงการตรวจสอบตำแหน่งรถจากระยะไกลด้วย
  Tesla Semi ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัวที่เพลาหลัง ด้วยพลังงานขับเคลื่อนนี้ช่วยให้รถทะยานจาก 0-97 กม./ชม. ในเวลา 5 วินาทีเท่านั้น แต่แน่นอนว่าเป็นอัตราเร่งที่ทำได้เฉพาะรถเปล่าที่ไม่ได้ติดเทรลเลอร์ด้านหลัง Tesla กล่าวว่าเมื่อรถบรรทุกน้ำหนักเต็มพิกัด 36,287 กิโลกรัม อัตราเร่งจะเพิ่มเป็น 20 วินาที

  เนื่องจาก Tesla Semi ไม่มีเครื่องยนต์เกียร์หรือคลัตซ์ ทำให้สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้อย่างราบรื่น และสามารถประหยัดค่าบำรุงรักษาได้ นอกจากนี้ Tesla Semi ยังออกแบบให้ระบบเบรกสามารถนำพลังงานจลน์ที่สูญเสียกลับมาใช้ได้ถึง 98% 

  Tesla Semi ติดตั้งแบตเตอรี่ที่สามารถรองรับการชาร์จซ้ำได้ , กล้องมองภาพรอบคัน , กระจกที่ทนแรงกระแทกแบบพิเศษ , เซ็นเซอร์ออนบอร์ดที่สามารถตรวจจับความไม่มั่นคงของรถและปรับแรงบิดให้กับล้อแต่ละล้อและปรับการทำงานของเบรกเพื่อป้องกันการเสียการทรงตัวของรถได้ นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติ Autopilot ติดตั้งมาให้ , ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติิ Automatic Emergency Braking , ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในเลน Automatic Lane Keeping , ระบบเตือนไม่ให้ออกนอกเลน Lane Departure Warning และ ระบบช่วยบันทึกการขับขี่ 

  Tesla Semi สามารถวิ่งได้เป็นระยะทางสูงสุดกว่า 800 กิโลเมตรเมื่อบรรทุกเต็มอัตรา มีอัตราสิ้นเปลืองพลังงาน 2 กิโลวัตต์ชั่วโมง/1.6 กม. และทาง Tesla ยังแนะนำระบบ  Megachargers ซึ่งเป็นระบบชาร์จไฟกระแสตรงความเร็วสูงใหม่ที่สามารถชาร์จไฟให้วิ่งได้เป็นระยะทาง 644 กิโลเมตรภายในเวลา 30 นาที ระบบชาร์จไฟนี้จะถูกติดตั้งตามจุดสำคัญต่างๆ หรือจุดที่มีการจราจรหนาแน่น ซึ่งจะช่วยให้ชาร์จไฟได้ระหว่างการขนถ่ายสินค้าหรือระหว่างช่วงพักการขับขี่ได้

  Tesla ยังกล่าวอีกว่า Semi จะเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดีที่สุดในการช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้า โดยจะช่วยลดค่าขนส่งได้ปีละราวๆ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6,549,000 บาท) และรองรับการใช้งานได้มากกว่า 1 ล้านไมล์ หรือประมาณ 1.6 ล้านกิโลเมตร

  Tesla Semi เปิดรับจองแล้วด้วยจำนวนเงิน 5,000 ดอลลาร์หรือประมาณ 164,000 บาท และจะเริ่มผลิตส่งมอบลูกค้าในปี 2019 ครับ

ที่มา Paultan

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box