วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2562

All-New Volkswagen Golf โฉมใหม่ของรถยอดนิยมระดับโลก

  ยักษ์ใหญ่เยอรมันอย่างค่าย Volkswagen ได้ทำการเผยโฉมรถยอดนิยมของค่ายอย่าง All-New Volkswagen Golf ซึ่งถือว่าเป็นเจเนเรชั่นที่ 8 แล้ว ซึ่งก็ได้ทำการปรับเปลี่ยนรูปโฉมและอัดแน่นเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาในรถขายดีระดับโลกรุ่นนี้

   VW Golf โฉมใหม่มีความยาว 4,284 มิลลิเมตร กว้าง 1,789 มิลลิเมตร สูง 1,456 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อยาว 2,636 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับโฉมที่แล้ว รุ่นใหม่จะยาวขึ้น หน้าแคบลงเล็กน้อยและฐานล้อที่ยาวกว่าเดิมเล็กน้อย

  ดีไซน์ภายนอกยังคงเอกลักษณ์จากรุ่นเดิมไว้เยอะทีเดียว มองผ่านๆอาจคิดว่าเป็นรุ่น Minor Change ทั้งที่ความจริงคันนี้คือโมเดลใหม่หมดจด การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือ ด้านหน้าที่ออกแบบใหม่ให้ดูทันสมัยมากขึ้น ด้วยโคมไฟหน้าใหม่และกระจังหน้าที่เพรียวบางกว่าเดิม ด้านข้างนั้นดูผ่านๆแทบจะเหมือนรุ่นเดิมเลย แต่มีการขัดเกลาเส้นบนตัวถังให้อ่อนละมุนขึ้นกว่าเดิม ส่วนด้านท้ายก็มีการออกแบบไฟท้ายให้เพรียวขึ้นด้วย

  แม้ภายนอกเหมือนจะเปลี่ยนไม่มากแต่ภายในนั้นถือว่าเปลี่ยนขนานใหญ่ มีการออกแบบที่ดูล้ำสมัยมากขึ้น ลดปุ่มภายในและหันมาใช้การควบคุมด้วยจอสัมผัสแทน เข้ามาจะพบกับหน้าปัดดีไซน์ใหม่แบบดิจิตอล พร้อมทั้งมีจอแสดงผล Head-Up Display ให้เลือกเป็นออปชั่นเสริม เช่นเดียวกับระบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบออนไลน์  (Online Connectivity Unit)  มีมาให้เป็นมาตรฐาน โดยจะมี eSIM ในตัว เพื่อสามารถเชื่อมต่อระบบ We Connect และ We Connect Plus และบริการต่างๆได้

  จากข้อมูลของ VW ระบุว่า Golf โฉมใหม่จะสร้างมาตรฐานใหม่ในรถระดับเดียวกันในด้านของฟังก์ชั่นช่วยการขับขี่ ความพิเศษคือระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติที่ติดตั้งมาให้ในรถนั้นสามารถรองรับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพบนทางหลวงที่ความเร็วสูงสุดได้ถึง 210 กม. / ชม. โดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องเติมคันเร่งหรือเบรก

  Golf โฉมใหม่ยังมากับฟังก์ชั่น Car2X ที่รับข้อมูลจากรถคันอื่น ๆ ภายในรัศมีสูงสุดถึง 800 เมตร  รวมถึงสัญญาณจากโครงสร้างพื้นฐานด้านการจราจรเพื่อเตือนผู้ขับขี่ - ในทางกลับกันข้อมูลนี้สามารถเปลี่ยนเส้นทางไปยังรุ่นอื่นๆที่ติดตั้ง Car2X ได้อีกด้วย

 ทางด้านขุมพลังนั้น เครื่องยนต์เบนซินและดีเซลของ Golf รุ่นใหม่เป็นแบบเทอร์โบชาร์จหัวฉีดตรงทั้งหมด โดยมีพละกำลังตั้งแต่ 90 แรงม้า (PS) 300 แรงม้า (PS) ในขณะเดียวกันเกียร์ธรรมดา 6 สปีดยังได้รับการพัฒนาสำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าเพื่อลดการปล่อย CO2 อีกด้วย

  เบนซิน TSI จะมีพละกำลังให้เลือก 4 แบบในช่วงเปิดตัว ได้แก่ 90 แรงม้า, 110 แรงม้า (PS), 130 แรงม้า (PS) และ 150 แรงม้า (PS) โดยเครื่องยนต์ 90 และ 110 แรงม้าจะเป็นเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร 3 สูบ นอกนั้นเป็นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร

  สำหรับรุ่นพละกำลัง 110 แรงม้า ขึ้นไปจะสามารถเลือกพ่วงกับระบบ Mild-Hybrid (eTSI) ที่มี belt starter generator 48 V และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 48 V จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ DSG 7 สปีด ส่วนเครื่องยนต์เบนซิน TSI 2.0 ลิตร 3 แบบ สำหรับ Golf GTI, Golf GTI TCR และ Golf R รวมถึงขุมพลัง TGI 1.5 ลิตรที่รองรับก๊าซธรรมชาติ (CNG) และน้ำมันจะเปิดตัวในภายหลัง

   เครื่องยนต์ดีเซล TDI ขนาด 2.0 ลิตรของ จะมากับพละกำลังที่ 115 แรงม้า (PS) และ 150 แรงม้า (PS) (148 HP) ทั้งคู่สามารถใช้เกียร์ธรรมดาหรืออัตโนมัติแบบ DSG ได้ ได้ในขณะที่รุ่น 150 แรงม้า สามารถเลือกจับคู่กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MOTION ได้ สำหรับรุ่นดีเซลสมรรถนะสูง Golf GTD จะตามมาอีกในภายหลัง

  นอกจากนี้ยังมีตัวแรง Plug-In Hybrid ในรุ่น  eHybrid ที่มากับพละกำลัง 204 แรงม้า (PS)  หรือรุ่น GTE พละกำลัง 245 แรงม้า (PS) ภายใต้เครื่องยนต์เบนซิน TSI 1.4 ลิตรบวกกับมอเตอร์ขับเคลื่อนไฟฟ้าและแบตเตอรี่ลิเธียม 13 kWh

  All-New Volkswagen Golf จะมาถึงตัวแทนจำหน่ายในยุโรปเดือนธันวาคมนี้ครับ

ที่มา Carscoops
  
 ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box