Toyota ได้ทำการเผยโฉมและข้อมูลเบื้องต้นของ Toyota C-HR Minor Change เวอร์ชั่นยุโรปและออสเตรเลียออกมาแล้ว โดยมีการปรับปรุงดีไซน์ภายนอกและเพิ่มทางเลือกเครื่องยนต์ใหม่ อีกทั้งเพิ่มเติมเทคโนโลยีใหม่ด้วย
ดีไซน์ภายนอกนั้นเห็นชัดว่ามีการปรับดีไซน์กันชนหน้าใหม่พร้อมย้ายตำแหน่งไฟตัดหมอกส่งผลให้ด้านหน้าดูกว้างขึ้น เช่นเดียวกับไฟหน้าที่มีการปรับรายละเอียดใหม่เป็นแบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights ภายในโคม และชุดไฟเลี้ยวดีไซน์ใหม่เป็นเส้นเหนือชุดโคมไฟหลัก ส่วนด้านท้ายมากับไฟท้าย LED ที่ปรับปรุงรายละเอียดใหม่ให้ดูดีขึ้น เสริมด้วยสปอยเลอร์สีดำที่ลากยาวเชื่อมสองไฟท้ายเข้าด้วยกัน และแน่นอนว่ามีล้ออัลลอยลายใหม่
ภายในห้องโดยสารยังคงดีไซน์เดิม ติดตั้งชุดหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วที่คราวนี้รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto หน้าจอยังรองรับการอัพเดทแผนที่นำทางแบบ over-the-air ทำให้ลูกค้ายุโรปสามารถใช้แผนที่เวอร์ชั่นล่าสุดได้
Toyota C-HR Minor Change จะมีทางเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ ได้แก่
- ขุมพลังเดิมเบนซิน 1.8 ลิตรที่ปรับปรุงใหม่ : เครื่องยนต์เบนซิน 2ZR-FXE 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC 1.8 ลิตร Atkinson cycle พละกำลังสูงสุด 98 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 72 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 163 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่แบบนิกเกิลเมทัลไฮไดรต์ รวมกำลังทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT
- ขุมพลังใหม่ 2.0 ลิตร Hybrid Dynamic Force ยกมาจาก Lexus UX250h : เครื่องยนต์เบนซิน M20A-KXS 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC 2.0 ลิตร Atkinson cycle พละกำลังสูงสุด 146 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 188 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400-5,200 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 202 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่แบบนิกเกิลเมทัลไฮไดรต์ รวมกำลังทั้งระบบ 184 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT
ส่วนทางเลือกเครื่องยนต์เบนซิน1.2 ลิตรเทอร์โบ จะไม่มีในตลาดยุโรปแล้ว เนื่องด้วยลูกค้า C-HR ในยุโรปส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ไปเล่นรุ่น Hybrid กัน
นอกจากนี้ Toyota C-HR Minor Change ยังมีการปรับปรุงระบบพวงมาลัยไฟฟ้า EPS เพื่อเพิ่มความรู้สึกในตอบสนองการบังคับเลี้ยวได้ดีขึ้น พร้อมระบบลดเสียงรบกวน NVH ที่ได้รับการอัปเกรดใหม่เพื่อลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม พิเศษสำหรับรุ่น 2.0 ลิตรยังมีการปรับแต่งช่วงล่างใหม่เฉพาะเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ให้มากขึ้นด้วย
Toyota C-HR Minor Change จะมีทางเลือกทั้งหมด 5 เกรด ได้แก่ Icon,Design, Excel, Dynamic และท็อปสุด Orange Edition โดยราคาเริ่มต้นนั้นในตลาดประเทศอังกฤษจะเริ่มที่ 25,625 ปอนด์ หรือประมาณ 964,000 บาท
ทางด้านตลาดออสเตรเลียนั้นจะเริ่มวางจำหน่ายเดือนธันวาคมปีนี้ โดยมีทางเลือกเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร Hybrid เพิ่มเติมในเกรด Koba รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อที่ถือว่าเป็นเกรดขายดี และยังคงมีทางเลือก เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร เทอร์โบชาร์จเจอร์ รหัสเครื่องยนต์ 8NR-FTS มากับพละกำลัง 115 แรงม้า (PS) ที่ 5,200-5,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 185 นิวตัน-เมตรที่ 1,500-4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ CVT
ส่วนตลาดเมืองไทยนั้นจะมีการเปิดตัว Toyota C-HR Minor Change ตามมาเมื่อไหร่ต้องติดตามครับ
ส่วนตลาดเมืองไทยนั้นจะมีการเปิดตัว Toyota C-HR Minor Change ตามมาเมื่อไหร่ต้องติดตามครับ
ที่มา Paultan
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย