แต่ในบทความเรื่องนี้ ผู้เขียนขอนำเอากระบะขายดีขั้นเทพอย่าง Isuzu D-Max Spark 4x4 มาเปรียบเทียบกับ Mitsubishi Triton Single Cab 4x4 โดยการเปรียบเทียบของเรายังคงคอนเซปต์เดิมคือ การเปรียบเทียบหน้าตา ออปชั่น ราคา ส่วนสมรรถนะควรให้ท่านผู้อ่านลองไปทดสอบดูเพื่อจะได้เข้าถึงสมรรถนะแบบชัดเจนมากกว่าที่ให้ผู้เขียนมาบอก
ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ มีสมาชิกคนหนึ่งมาโพสต์กล่าวแนวดูถูกหน้าเพจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถึงกับติว่าแนวการเขียนของผู้เขียนว่าเสื่อม แย่ ห่วย ฉะนั้นคราวนี้เราเลยต้องเตือนไว้เลย ณ ที่นี้ว่า
"บทความเปรียบเทียบมวยคู่เดือดของผมนั้น มีจุดประสงค์หลักคือต้องการเปรียบเทียบตัวรถ
ออปชั่น ความปลอดภัย ส่วนเรื่องสมรรถนะและการขับขี่ควรไปทดลองขับเองจะดีที่สุด
เพราะ ความรู้สึกของแต่ละคนที่ได้ขับรถในรุ่นเดียวกัน อาจจะไม่เหมือนกันก็ได้
และชัยชนะที่ผมตัดสินในบทความ ผมคิดว่าก็ไม่จำเป็นต้องคิดตรงกับสมาชิกคิดเสมอไป
เพราะเราอาจคิดต่างกันก็ได้ แต่ทั้งหมดนี้เป็นการแสดงความเห็นในทรรศนะของผมครับ"
เข้าใจตามนี้นะครับผม
เข้าใจแล้ว..มาเริ่มกันเลย มาดูที่หน้าตาของรถทั้งสองคันเป็นอันดับแรก ถ้าพูดถึงความบึกบึนของตัวรถ คงจะต้องยกให้ Isuzu เขาหละ เพราะว่า ตัวถังของ D-Max นั้นจะทำโป่งซุ้มล้อที่หนากว่า Triton แบบเห็นได้ชัด ทำให้มันดูเป็นรถลุยยกสูงมากกว่า Triton ที่ไม่ได้ทำโป่งหนาๆ แต่ถ้าเทียบเรื่องความสวยงาม Mitsubishi น่าจะมีมากกว่า ด้วยหน้าตาและเส้นสายตัวถังที่ดูสปอร์ตกว่าด้วย ซึ่งทั้งนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละท่านครับ
คราวนี้เข้ามาดูภายในห้องโดยสารของรถบ้าง ซึ่งภายในห้องโดยสารของ Isuzu D-Max จะมาแนวเรียบง่ายๆ และมีความล้ำแฝงเข้ามาภายในห้องโดยสารอยู่บ้าง แต่ในส่วนของ Mitsubishi Triton น่าจะมาในแนวรถเก๋งเสียมากกว่า ซึ่งก็ขึ้นกับความชอบของแต่ละบุคคล สำหรับผู้เขียนชอบห้องโดยสารของ Triton มากกว่าครับ มีอีกเรื่องที่ Isuzu ได้เปรียบ Mitsubishi คือการมีรุ่น Chassis ให้เลือกใช้ด้วย ส่วนในรุ่นที่มีกระบะ Isuzu ก็ยังคงได้เปรียบเรื่องการบรรทุกเพราะมากับความยาวกระบะที่มากกว่า (ยาว/กว้าง/สูง 2305x1570x440) เมื่อเทียบกับ Mitsubishi (ย/ก/ส 2265/1470/475)
สำหรับขุมพลังนั้น ต้องขอบอกว่าเรื่องพละกำลัง Mitsubishi อาจจะได้เปรียบกว่า เพราะ เราได้ค้นพบว่ารุ่นที่เรานำมาเทียบกันนั้น Isuzu กลับวางเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร VGS Turbo แต่ Mitsubishi วางเครื่อง 2.5 VG Turbo ที่มากับความแรงอยู่แล้ว
โดยเครื่องยนต์ของ Isuzu นั้นจะมากับขุมพลังดีเซล 2.5 ลิตร 4JK1-TCX DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว คอมมอนเรล ไดเรกอินเจคชัน VGS Turbo มากับพละกำลัง 136 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตรที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด
ส่วนขุมพลังของ Mitsubishi มากับเครื่องดีเซล 2.5 ลิตร 4D56 DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ VG Turbo มากับพละกำลัง 178 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด
ส่วนเรื่องระบบความปลอดภัยของรถนั้น ทั้งสองคันก็ให้มาแบบครบตามสไตล์กระบะตอนเดียว โดยมากับถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS และระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ส่วน Mitsubishi จะมีเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดมาให้ด้วย
สำหรับราคาค่าตัวนั้น Isuzu D-Max Spark 4x4 มีราคาค่าตัวที่ 618,000 บาท ส่วน Mitsubishi Triton Single Cab 4x4 ราคา 612,000 บาท ราคาต่างกันนิดหน่อยเท่านั้น ซึ่งก็แล้วแต่ท่านผู้อ่านเลือกแล้วละครับผม
Function
|
||
Isuzu D-Max Spark 4x4
2.5 VGS B
|
Mitsubishi
Triton
Single
Cab 2.5 GL 4WD
|
|
สัดส่วนตัวรถ
(ยาว/กว้าง/สูง)
|
5215/1860/1780
|
5075/1785/1780
|
กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ
|
-
|
มี
|
พวงมาลัยปรับระดับสูง-ต่ำได้
|
มี
|
มี
|
ระบบปรับอากาศ
|
มี
|
มี
|
จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่
|
มี
|
มี
|
เซ็นทรัลล็อก
|
มี
|
มี
|
กระจกหน้าต่างไฟฟ้า
|
-
|
มี
|
ระบบเครื่องเสียง
|
วิทยุพร้อมเครื่องเล่น CD 1 Din
|
วิทยุพร้อมเครื่องเล่น
CD
2 Din
|
ช่องเสียบ
USB/AUX
|
มี
|
มี
|
ลำโพง
(ตัว)
|
2
|
2
|
Engine
|
||
เครื่องยนต์
|
ดีเซล
4JK1-TCX Turbo VGS พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์
|
ดีเซล
4D56 เทอร์โบแปรฝัน
อินเตอร์คูลเลอร์ VG Turbo
|
พละกำลัง
(แรงม้า/รอบต่อนาที)
|
136/3,600
|
178/4,000
|
แรงบิดสูงสุด
(นิวตันเมตร/รอบต่อนาที)
|
320/1,800-2,800
|
400/2,000
|
ระบบส่งกำลัง
|
เกียร์ธรรมดา
5 สปีด
|
เกียร์ธรรมดา
5 สปีด
|
Safety
|
||
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS
|
มี
|
มี
|
คานเหล็กนิรภัยบริเวณประตู
|
มี
|
มี
|
เฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป
|
มี
|
มี
|
ABS/EBD
|
มี
|
มี
|
สัญญาณไฟเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย
|
มี
|
-
|
สัญญาณไฟเตือนปิดประตูไม่สนิท
|
มี
|
-
|
Price
|
||
ราคา
(บาท)
|
618,000
|
612,000
|
สรุปคือ...Isuzu กับ Mitsubishi ตอนเดียวขับ 4 ทั้ง สองคันต่างเป็นหนึ่งในรถที่ใครๆหลายคนถวิลหามาขับใช้ซักคันเพื่อเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ภาคใต้ที่ไว้ขนยางพารา ถือว่าเป็นประโยชน์มากๆเลย ซึ่งทั้งสองต่างก็ทำได้ดีทั้งคู่ และน่าใช้ทั้งสองคัน ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับผู้บริโภคว่าสนใจคันไหนมากกว่า ถ้าไม่แคร์ศูนย์ ก็เลือก Triton ได้สบายๆ แต่ถ้าอยากได้ศูนย์บริการที่ไว้ใจได้แน่นอน Isuzu ไม่ทำให้ผิดหวัง สรุปทั้งสองคันนี้จึงเสมอในการเปรียบเทียบครั้งนี้ครับ..
Score
|
||
รูปร่างหน้าตา 5
|
4
|
4.5
|
ฟังก์ชัน 5
|
4
|
4
|
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง 5
|
4
|
4.5
|
ระบบความปลอดภัย 5
|
4
|
4
|
ราคา 5
|
4
|
4
|
ศูนย์บริการ 5
|
5
|
4
|
รวม 30
|
25
|
25
|
อยากติดตามข่าวสารรถใหม่ อัพเดตเร็วทันใจ คุยสารพัดเรื่องรถ
กดไลค์แฟนเพจของ Cars New Update ด้านล่างได้เลยครับ!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย