5 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับ Isuzu D-Max Minor Change

  เมื่อการรอคอยสิ้นสุดลงแล้ว สำหรับหนึ่งในกระบะที่หลายคนรอคอยการเปิดตัวอย่าง Isuzu D-Max ที่ได้ทำการ Minor Change ตามอายุการตลาด ซึ่งการเปิดตัวของกระบะของค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Isuzu นั้นก็มีคนให้ความสนใจกันมากมายพอสมควร และมีเสียงวิจารณ์ทั้งทางบวกและลบและความคิดเห็นต่างๆนานาเกี่ยวกับกระบะคันนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องนานาจิตตัง ใครชอบอะไรแบบไหนก็เลือกซื้อตามความชอบเลยครับ ไม่ต้องสนใจเสียงวิจารณ์ของคนอื่นเขาครับ

  และหลังจากการเปิดตัวของกระบะคันเก่งของ Isuzu นั้น ผมก็ได้รวบรวมเกี่ยวกับเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Isuzu D-Max Minor Change มาให้แต่ละท่านได้ลองอ่านกันครับ จะมีอะไรบ้างนั้นก็เชิญรับชมได้เลย

   ข้อแรก Isuzu D-Max Minor Change ปี 2016 ถือว่าเป็นการปรับปรุงตัวรถครั้งที่ 3 ของตัวถังปัจจุบัน หลังจากที่ครั้งแรก ที่เคยเพิ่มไฟ Daylight และไฟท้าย LED ใหม่ในปี 2013 และตามด้วยการเพิ่มออปชั่นปุ่มสตาร์ทในปี 2014 เป็นการปรับปรุงครั้งที่ 2 และครั้งล่าสุดในปีนี้ Isuzu ก็ได้ทำการปรับปรุงหน้าตาใหม่ทั้งรายละเอียดภายนอกและภายในห้องโดยสาร รวมทั้งนำเสนอขุมพลังใหม่ด้วย

   ข้อสอง อันที่จริงแล้วนั้น Isuzu D-Max Minor Change ทาง Isuzu นั้นวางแผนจะทำการเปิดตัวในช่วงต้นปี 2016 นั้น แต่น่าจะเป็นเพราะเหตุผลเรื่องภาษีสรรพสามิตที่จะทำให้ราคากระบะนั้นสูงขึ้น รวมทั้งกระแสผู้คนที่รอคอยการเปิดตัวของกระบะรุ่นนี้มาก ดังนั้นแล้ว Isuzu จึงต้องรีบเร่งทำการเปิดตัวภายในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ และน่าจะเป็นเพราะความที่ยังไม่พร้อมเปิดตัว ทำให้ Isuzu สามารถเปิดตัวได้เฉพาะรุ่นเกียร์ธรรมดาเท่านั้น ส่วนรุ่นเกียร์อัตโนมัติรวมทั้ง X-Series นั้น ต้องรอการเปิดตัวในช่วงเดือนมีนาคม 2016 คนที่รอแล้วก็ต้องรออีกต่อนึงเลย

   ข้อสาม นับเป็นเรื่องที่น่าจะสะท้านวงการกระบะไทย เมื่อ Isuzu หันมาตามเทคโนโลยี Downsizing แบบค่ายอื่นๆบ้าง แต่ไม่ได้มากับขนาดเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรขึ้นไปเหมือนค่ายอื่นๆ ซึ่งกระบะคันนี้มากับเครื่องยนต์ความจุแค่ 1.9 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ไม่ใช่เทอร์โบคู่แบบที่หลายคนมโนกันไว้ อย่างไรก็ตามก็ถือว่าเป็นขุมพลังที่เล็กสุดในบรรดากระบะพิกัดเดียวกันเลยทีเดียว

   ข้อสี่ ว่าด้วยเรื่องการออกแบบรถ ถ้าตัดกระบะโลกลืมอย่าง Tata Xenon ออกไป Isuzu D-Max ก็ยังคงเป็นกระบะค่ายเดียวที่ไม่ได้ใช้ฝากระโปรงหน้าแบบสองชั้นหนาๆอย่างค่ายคู่แข่งทั้งหลาย ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าเก็บไปคิดมากเท่าไหร่

   ข้อสุดท้าย เรื่องการออกแบบเช่นกัน ที่ Isuzu ได้นำไฟตัดหมอกหน้ากลับมาอีกครั้งหลังจากที่เคยให้เป็นที่สิ่งสถิตของไฟเดย์ไลท์ ซึ่งในรุ่นใหม่ที่ออกมาตอนนี้ได้ย้ายไฟเดย์ไลท์เข้าไปในโคมเป็นที่เรียบร้อย ส่วนตำแหน่งไฟตัดหมอกนั้นก็เอาชุดไฟตัดหมอกมาประจำการเหมือน D-Max สมัยออกใหม่ๆเมื่อปี 2011 นั่นเอง

   และทั้งหมดนี้คือ 5 หัวข้อเรื่องที่น่าสนใจเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ Isuzu D-Max Minor Change ครับ

มาร่วมพูดคุยกันสนุกๆเรื่องรถยนต์ประดุจเพื่อนข้างกาย 
พร้อมเกาะติดข่าวการเปิดตัวรถใหม่กันแบบฉับไว

กดไลค์แฟนเพจของ Cars New Update ด้านล่างได้เลยครับ!!!