วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2561

All-New BMW X5 เปลี่ยนสู่ความดุดันและโฉบเฉี่ยวมากขึ้น

  ค่ายใบพัดฟ้าขาว BMW ได้ฤกษ์ในการเผยโฉม All-New BMW X5 โฉมใหม่ที่มากับรูปทรงที่ค่อนข้างโฉบเฉี่ยวและดุดันมากขึ้น 

   ด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ไฟหน้าทรงใหม่ที่ดูสวยงามมากขึ้น กันชนหน้าดีไซน์
แข็งแกร่งพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่กว่าเดิม เส้นสายตัวรถออกแบบให้ดูมีมิติและมีความเด่นชัด เช่นเดียวกับเส้นสายกรอบกระจกที่มีเหลี่ยมมุมมากขึ้น ต่อเนื่องไปถึงด้านท้ายที่มากับไฟท้าย LED แนวนอน ซึ่งแปลกตาจาก BMW รุ่นอื่นๆที่มักทำไฟท้ายทรงตัว L นอกจากนี้ยังมากับท่อไอเสียแบบโครเมี่ยมพร้อมสปอยเลอร์บริเวณฝาท้ายรถ

  สำหรับรูปแบบการตกแต่งภายนอก หลักๆจะมี xLine ที่เน้นความหรูหราด้วยการตกแต่งโดยใช้วัสดุอะลูมิเนียมรอบคันและล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว อีกรุ่นก็คือ M Sport ที่มีรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวและดุดันมากขึ้น ตกแต่งรอบคันด้วยวัสดุสีดำเงา Gloss Black มีล้ออัลลอยให้เลือกตั้งแต่ขนาด 20-22 นิ้ว

  All-New BMW X5 จะมีความยาวเพิ่มขึ้น 36 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 66 มิลลิเมตร สูงขึ้น 19 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาวขึ้น 42 มิลลิเมตร

   อีกหนึ่งพัฒนาการสำคัญคือภายในห้องโดยสารที่ออกแบบให้ทันสมัยน่าใช้งานมากยิ่งขึ้นรวมทั้งยังตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง เข้ามาจะพบกับสวิตซ์บริเวณคอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่และหน้าจอระบบ Infotainment ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว นอกจากนี้ช่องแอร์ตรงกลางยังมีหน้าจอแสดงผลอุณหภูมิแบบดิจิตอล นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบ LED และที่วางแก้วน้ำร้อนและเย็นได้ด้วย

   X5 โฉมใหม่ยังมีออปชั่นให้เลือกหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน , หลังคา Panoramic Roof ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 30% และบริเวณที่นั่งแถวหลังลูกค้ายังสามารถสั่งระบบเครื่องเสียง Bowers & Wilkins Diamond Surround พร้อมลำโพง 20 ตัว และชุดหน้าจอด้านหลังขนาด 10.2 นิ้วพร้อมเครื่องเล่น Blu-Ray ได้อีกด้วย

  สำหรับความจุสัมภาระด้านหลัง BMW X5 โฉมใหม่จะมีขนาดที่ 645 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลงจะมีความจุมากถึง 1,860 ลิตรเลยทีเดียว นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถสั่งออปชั่นเบาะแถวที่ 3 ได้ อย่างไรก็ตามลูกค้าที่หวังอยากได้ 7 ที่นั่งที่สบายๆหน่อยก็อาจจะรอ X7 ที่กำลังจะเปิดตัวตามมา

  ในช่วงเปิดตัว All-New BMW X5 จะมีเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล 4 ขุมพลังด้วยกัน เริ่มที่เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร V6 แถวเรียง เทอร์โบชาร์จ มากับพละกำลังสูงสุด 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ส่งผลให้รถทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.5 วินาทีก่อนที่จะทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 243 กม./ ชม.

ส่วนลูกค้าที่อยากได้พลังแรงขึ้น ก็จะขยับไปเป็นรุ่น xDrive50i ที่มากับเครื่องยนต์เบนซิน 4.4 ลิตร V8 เทอร์โบ พละกำลังสูงสุด 462 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

ทางด้านเครื่องยนต์ดีเซลจะมากับความจุ 3.0 ลิตร V6 ลิตร พละกำลังสูงสุด 265 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 620 นิวตัน-เมตร และปิดท้ายด้วยรุ่น M50d ที่มากับเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตรเทอร์โบ V6 พละกำลังสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 760 นิวตัน-เมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.2 วินาทีและความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

ไม่ว่าจะเลือกใช้เครื่องยนต์ใดก็ตาม ทุกรุ่นจะจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ rear-biased all-wheel drive นอกจากนั้นแล้วรุ่น Plug-In Hybrid และตัวแรง X5 M จะตามมาในภายหลัง

  All-New BMW X5 ยังทำการติดตั้งระบบ Dynamic Damper Control system , ระบบพวงมาลัยบังคับเลี้ยว 4 ล้อ , และเฟืองท้ายด้านหลังแบบลิมิเต็ดสลิป ลูกค้ายังสามารถสั่งออปชั่นระบบช่วงล่างถุงลมที่จะปรับความสูงเพิ่มขึ้น 40 มิลลิเมตรซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดมากขึ้น

  นอกจากนี้ All-New BMW X5 ยังเอาใจคอออฟโรดมากขึ้นด้วยการติดตั้งแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถ , จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดและปุ่มควบคุมการขับขี่บนพื้นกราด ทราย และหิมะ

  ระบบความปลอดภัยของรถมีให้ใช้มากมาย อย่างเช่นระบบรักษารถให้อยู่ในเลน Lane Keep Assist หรือระบบช่วยขับขี่เวลารถติด Traffic Jam Assist เป็นต้น  นอกจากนี้ยังมีระบบ Emergency Stop Assist ช่วยให้รถหยุดได้อย่างปลอดภัยหากคนขับเสียชีวิตเนื่องจากเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์

  All-New BMW X5 จะเริ่มวางขายในตลาดสหรัฐฯช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนชาวไทยนั้นก็มีโอกาสสัมผัสได้อย่างเร็วที่สุดปลายปีนี้เช่นเดียวกัน หรืออย่างช้าก็ต้นปีหน้า

ที่มา Carscoops

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box