วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2561

เปิดตัวในไทยแล้ว MG3 Big Minor Change ปรับครั้งใหญ่พร้อมราคาที่บวกเพิ่ม 40,000-50,000 บาท

  สิ้นสุดการรอคอยสำหรับแฟนชาวไทย!...เมือทาง MG Thailand ได้ทำการเปิดตัว "All-New MG3" ภายใต้สโลแกน "We are fun..มองโลกให้สนุก ทุกเส้นทาง" มาพร้อมกับปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกและภายในครั้งใหญ่ และเพิ่มเติมเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามา จนทำให้ราคาอัปเพิ่มขึ้นไป 40,000-50,000 บาท

  แม้ทาง MG Thailand จะโปรโมทรถว่า "All-New" แต่ในความเป็นจริงนั้น MG3 ใหม่นี้เป็นการปรับปรุงโฉมใหม่แบบ "Big Minor Change" ที่มีการปรับโฉมแบบครั้งใหญ่ทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสารจนพลิกดีไซน์ไปจากเดิมมากทีเดียว

   รูปโฉมภายนอกโดยเฉพาะด้านหน้านั้นมีการออกแบบใหม่ทั้งหมดตามแนวการออกแบบยุคใหม่ของ MG นั่นเอง โดยดีไซน์ไฟหน้าและกระจังหน้าจะคล้ายคลึงกับ MG ZS อันเป็นหน้าตาที่หลายคนชอบทักว่าคล้ายรถญี่ปุ่นหรือไม่ก็รถเกาหลีบางค่ายนั่นเอง โดยทุกรุ่นยกเว้นตัวล่างสุด 1.5 C ไฟหน้าจะเป็นแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟ Daytime Running Lights ภายในโคม

   ในส่วนด้านข้างก็ยังคงดีไซน์เดิมๆไม่เปลี่ยนแปลง มีการออกแบบล้อลายใหม่ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ล้อเดิมขนาด 15 นิ้วและลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว ในส่วนด้านท้ายจะมากับโคมไฟท้ายใหม่แบบ LED Light Guideแ ฝาท้ายออกแบบใหม่แทบทั้งดุ้นซึ่งทำให้ท้ายดูดีมิติมากขึ้น และยังมีปรับปรุงรายละเอียดกันชนท้ายใหม่ให้ดูดีขึ้นด้วย
 
   การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่คงจะอยู่ที่ภายในห้องโดยสารที่มีการออกแบบคอนโซลใหม่แทบทั้งหมดจนไม่เหลือเค้าเดิมเลย ทำให้ดูมีความทันสมัยทัดเทียมคู่แข่งมากกว่าเดิม จะมากับพวงมาลัย 3 ก้านทรงใหม่เหมือน MG ZS ออกแบบช่องแอร์ด้านคนขับและผู้โดยสารดีไซน์ใหม่  ช่องแอร์ตรงกลางออกแบบใหม่เป็นแนวตั้ง ออกแบบปุ่มแอร์ใหม่โดยแอร์มีให้เลือกทั้งแบบมือหมุนธรรมดาและอัตโนมัติ ปุ่มต่างๆบนคอนโซลถูกจัดวางให้ใช้งานง่ายขึ้น ออกแบบหัวเกียร์และฐานเกียร์ใหม่ให้ดูดีกว่าเดิม และยังมีการออกแบบทรวดทรงเบาะนั่งใหม่ให้ดูดียิ่งขึ้น ในรุ่นท็อป 1.5 V ก็จะเป็นเบาะผ้าผสมหนัง รุ่นรองลงมาก็จะเป็นเบาะผ้า นอกจากนี้ตัวท็อปสุดจะได้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control อีกด้วย

   ระบบอินโฟเทนเมนต์ในรุ่นท็อป 1.5 V และรองท็อป 1.5 X จะติดตั้งชุดหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วมาให้ ในรุ่นท็อปสุดจะติดตั้งระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART มาให้

  ทางด้านเครื่องยนต์นั้นจะทำการติดตั้ง เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH พละกำลัง 112 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดพร้อม Manual Mode

  ทางด้านระบบความปลอดภัยของรถจะมีให้ดังนี้
- ระบบป้องกันล้อล็อค ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบควบคุมเบรกขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
- ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและลื่นไถล TCS (Traction Control)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
- ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำฉับพลัน MSR (Motor Control Slide Retainer)
- ระบบเซ็นทรัลล็อค
- ไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home Light
- จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
- ระบบล็อคประตูอัตโนมัติ Speed Sensing Door Lock
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- กล้องมองภาพด้านหลัง (เฉพาะรุ่น 1.5 X และ 1.5 V)
- สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง (รุ่น 1.5 D ขึ้นไป)
- ระบบกุญแจ Immobilizer
- ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน

   MG3 Big Minor Change มีสีตัวถังให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเหลือง Tudor Yellow + หลังคาดำ Black Top , สีแดง Ruby Red + หลังคาดำ Black Top , สีน้ำเงิน Marina Blue + หลังคาขาว White Top ,สีขาว Arctic White และ สีดำ Black Knight 
* สำหรับรุ่น C จะมีแค่ สีขาว Arctic White และ สีดำ Black Knight  เท่านั้น

 แบ่งการจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่
- 1.5 C ราคา 519,000 บาท (+40,000 บาท)
- 1.5 D ราคา 549,000 บาท (+40,000 บาท)
- 1.5 X ราคา 589,000 บาท (+30,000 บาท)
- 1.5 V ราคา 629,000 บาท (+50,000 บาท)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box