วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

Land Rover Discovery Sport Minor Change ปรับดีไซน์ เพิ่มเทคโนโลยี และขุมพลังที่รักษ์โลกขึ้น

  ค่ายรถ SUV สายลุยอย่าง Land Rover ได้ทำการเผยโฉม Land Rover Discovery Sport Minor Change ที่มีการปรับดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสาร เพิ่มเติมเทคโนโลยีใหม่ และแนะนำขุมพลังที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

  ภายนอกนั้นจะมากับการปรับปรุงรายละเอียดไฟหน้า กระจังหน้า และกันชนหน้าใหม่ให้ทันสมัยขึ้นตามแนวทางของ Land Rover ยุคใหม่ เช่นเดียวกับด้านท้ายที่มีการปรับรายละเอียดโคมไฟท้ายและกันชนท้ายใหม่ ส่วนล้อก็มีลายใหม่ๆให้เลือก โดยมีตั้งแต่ขนาด 18-21 นิ้ว

  ภายในห้องโดยสารมีการปรับปรุงดีไซน์ให้ทันสมัยขึ้นตามแนวทาง Land Rover ยุคใหม่เช่นเดียวกับภายนอก เข้ามาจะพบกับพวงมาลัย 3 ก้านดีไซน์ใหม่ หน้าปัดดีไซน์ใหม่แบบดิจิตอล ระบบ Touch Pro Infotainment System พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว ในส่วนปุ่มควบคุมด้านล่างถัดจากหน้าจอ Infotainment ก็ถูกเปลี่ยนเป็นจอแสดงผลดิจิตอลเหมือนกับรุ่นอื่นๆ

  ในรุ่นปรับโฉมใหม่นี้ยังจะได้พบกับหัวเกียร์ซึ่งมาแทนที่ปุ่มหมุนควบคุมเกียร์แบบรุ่นก่อนหน้า พร้อมกันนี้ยังมีการออกแบบเบาะนั่งใหม่ให้โดยสารได้อย่างสะดวกสบายและรู้สึกคล่องตัวมากขึ้น ในเบาะแถวที่ 2 ของรถสามารถพับแยกได้ในอัตราส่วน 40:20:40 และสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการพับได้มากถึง 24 แบบ

  เบาะนั่งของรถสามารถเลือกหุ้มด้วยวัสดุ Luxtex ซึ่งทำจากไมโครไฟเบอร์โพลีเอสเตอร์ที่รีไซเคิล โดยทาง Land Rover กล่าวว่าเป็นวัสดุที่ "หรูหรา น้ำหนักเบา ทนทาน และทนต่อการฉีกขาด"

   ลูกค้าจะพบกับออปชั่นใหม่ๆอีกหลายการ ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งด้านหน้าพร้อมฟังก์ชั่นนวด , แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย และ Pet Pack ที่เพิ่มอุปกรณ์เสริมที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง

  Discovery Sport ใหม่ ยังมีการติดตั้งเทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ "ClearSight Rear View" เมื่อกดปุ่มหนึ่งครั้ง กระจกมองหลังจะเปลี่ยนเป็นจอแสดงผล HD ที่แสดงภาพสดจากกล้องที่ติดตั้งเหนือหน้าต่างด้านหลัง ซึ่งให้มุมมองภาพที่กว้างกว่ากระจกมองหลังปกติและให้ทัศนวิสัยที่ดีขึ้นในสภาพแวดล้อมที่แสงเข้าถึงน้อย

  นอกจากนั้นแล้วยังมีเทคโนโลยี Clear Sight Ground View ซึ่งสามารถมองทะลุฝากระโปรงหน้าไปยังพื้นถนนได้ในมุมมอง 180 องศา โดยระบบจะฉายภาพผ่านทางชุดหน้าจอระบบอินโฟเทนเมนต์ตรงกลาง ซึ่งระบบนี้จะมีประโยชน์เมื่อเดินทางบนพื้นผิวขรุขระและถนนที่มีฟุตปาธสูงๆ

   Discovery Sport ใหม่ ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Land Rover’s Premium Transverse Architecture อันเป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาต่อยอดมาจากแพลตฟอร์ม D8 ซึ่งมีความแข็งแรงขึ้นจากรุ่นก่อน 13% อีกทั้งยังช่วยลดเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือนเข้ามาภายในห้องโดยสารอีกด้วย

  ทางด้านเครื่องยนต์นั้น ได้มีการแนะนำระบบ Mild-Hybrid พร้อมระบบไฟ 48 โวลต์ ซึ่งช่วยเพิ่มพลังงานในการออกตัวของรถได้ในระยะเวลาหนึ่ง  แหล่งพลังงานจะถูกเก็บไว้ในแบตเตอรี่ที่ติดตั้ง
อยู่ใต้ท้องรถ  

  โดยขุมพลังในตลาดอังกฤษจะมีให้เลือกทั้งดีเซลและเบนซิน ซึ่งประกอบไปด้วย
- เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบ พละกำลัง 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร
- เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบ พละกำลัง 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร มาพร้อมระบบ Mild-Hybrid
- เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบ พละกำลัง 240 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร มาพร้อมระบบ Mild-Hybrid
เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ พละกำลัง 200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร มาพร้อมระบบ Mild-Hybrid
เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ พละกำลัง 249 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 365 นิวตันเมตร มาพร้อมระบบ Mild-Hybrid

  ส่วนตลาดสหรัฐฯ จะมี 2 ทางเลือกคือ เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ พละกำลัง 249 แรงม้า และ เครื่องยนต์พละกำลัง 300 แรงม้าพร้อมระบบ Mild-Hybrid 

  ทางด้านระบบความปลอดภัย จะมีการติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน Adaptive Cruise Control with Steering Assist , ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในเลน Lane Keep Assist และระบบเบรกอัตโนมัติ Autonomous Emergency Braking
  
  Land Rover Discovery Sport Minor Change วางจำหน่ายแล้วที่ประเทศอังกฤษในราคาเริ่มต้นที่ 31,575 ปอนด์ หรือประมาณ 1,278,000 บาท ไม่รวมภาษีสรรพสามิตประเทศไทย ส่วนชาวไทยจะได้สัมผัสรุ่นนี้เมื่อไหร่ต้องติดตามครับ

ที่มา Carscoops

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box