All-New Volkswagen Polo ยกระดับทั้งขนาด คุณภาพและความล้ำสมัย

  ค่ายรถยักษ์ใหญ่แห่งยุโรปอย่าง Volkswagen ได้ทำการเผยโฉม All-New Volkswagen Polo รถซับคอมแพกต์คาร์โฉมใหม่ล่าสุดที่ยังคงดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์จากรุ่นที่แล้ว ออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ที่สำคัญประหยัดน้ำมันมากขึ้นด้วย

   รถคันนี้ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม MQB A0 และถือว่าเป็น Polo ที่ใหญ่สุดที่ประวัติศาสตร์ที่ VW เคยสร้างมา โดยมีขนาดความยาวตัวถังทั้งหมด 4,053 มิลลิเมตร ฐานล้อยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิมถึง 94 มิลลิเมตร โดยมีประโยชน์มากสำหรับพื้นที่ห้องโดยสาร โดยมีความจุด้านหลังที่เพิ่มขึ้นถึง 25% กลายเป็น 351 ลิตร

   งานออกแบบภายนอก มีการออกแบบด้านหน้าให้ดูหรูหราและน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม เส้นสายด้านข้างดูชัดเจนและมีมิติกว่าเดิม แม้จะยังรักษาเส้นกรอบประตูที่คล้ายคลึงรุ่นเดิมแต่ก็เห็นชัดว่าตัวรถที่ขนาดที่ใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน ในส่วนของด้านท้ายก็มากับไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์ทันสมัย

   ภายในถือว่ายกระดับความหรูหราและทันสมัยจากรุ่นเดิมแบบสุดๆไปเลยก็ว่าได้ เพราะค่าย VW ได้บรรจงใส่อุปกรณ์และฟังก์ชันทันสมัยเข้าไปเพื่อให้รถดูหรูหรามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดแบบดิจิตอล (Active Info Display) ที่จะแสดงข้อมูลต่างๆได้ชัดเจนสวยงามมากขึ้น โดยเป็นออปชั่นเสริมมาให้ และยังออกแบบหน้าจอสัมผัสใหม่ที่เคลือบด้วยกระจกชั้นเยี่ยมมาในขนาด 6.5 นิ้วเป็นมาตรฐาน 

   ขุมพลังของรถมีทางเลือกมากมายหลายแบบด้วยกัน เริ่มที่เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร ที่มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดาและเทอร์โบชาร์จ มากับพละกำลัง 65 และ 115 แรงม้าตามลำดับ , นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์ใหม่ความจุ 1.5 ลิตร TSI มากับพละกำลัง 150 แรงม้า และแรงสุดใน Polo GTI มากับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ พละกำลังสูงสุด 200 แรงม้า ทำอัตราเร่งสูงสุดจาก 0-100 กม./ชม. ใน 6.7 วินาที ทางด้านขุมพลังดีเซล ก็จะมีเครื่องยนต์ดีเซลความจุ 1.6 ลิตร มากับพละกำลัง 80 และ 95 แรงม้า สำหรับโมเดลที่มี 93 แรงม้าขึ้นไปจะมีเกียร์อัตโนมัติ DSG มาให้เป็นทางเลือก นอกจากนี้ยังมีการแนะนำขุมพลังใหม่ Natural gas engine ขนาด 1.0 ลิตร TGI พละกำลัง 90 แรงม้า

   VW ได้ทำการติดตั้งระบบความปลอดภัยที่มักติดตั้งในรถรุ่นใหญ่กว่าให้กับ Polo ไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรกอัตโนมัติด้านหน้ารถ (Front Assist with City Emergency Braking) , ระบบตรวจจับคนเดินเท้า (Pedestrian Monitoring) , ระบบจำกัดความเร็ว (speed limiter) และระบบเตือนแรงดันลมยาง (Tire Pressure Monitoring System)

นอกจากนี้ยังมีระบบอื่นๆ ได้แก่ Active Cruise Control (มีในรุ่นที่ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ DSG และมีฟังก์ชั่น Stop & Go) , ระบบเตือนจุดอับสายตาพร้อมระบบเตือนจุดบอดด้านหลัง (Blind Spot Detection with Rear Traffic Alert) และ ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Park Assist)

   VW Polo โฉมใหม่แบ่งการตกแต่งออกเป็น 5 แบบ ได้แก่ Trendline, Comfortline และ Highline และยังมีการตกแต่ง Beats และ R-Line รุ่นใหม่ ลูกค้าสามารถเลือกสีภายนอกได้ 14 สี ล้อ 12 ลายที่แตกต่างกัน (ตั้งแต่ 14 ถึง 18 นิ้ว) และสีแดชบอร์ดภายใน 13 สี รวมทั้งสีตกแต่งเบาะนั่งอีก 11 สีให้เลือก

   VW Polo โฉมใหม่จะวางขายในตลาดยุโรปอันเป็นหัวหอกสำคัญภายในสิ้นปีนี้ ในราคาเริ่มต้นที่ 12,795 ยูโร หรือประมาณ 486,000 บาทไทย ซึ่งติดตั้งระบบเตือนเบรกอัตโนมัติด้านหน้า Front Assist มาให้เป็นมาตรฐาน

ที่มา Carscoops