Car News Update: All-New Ford Focus พลิกโฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิมพร้อมอัดแน่นความปลอดภัย

ค่ายวงรีสีฟ้า Ford ได้ทำการแนะนำ All-New Ford Focus เจเนเรชั่นใหม่ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ที่หรูหราสวยงามและทันสมัยขึ้น รวมทั้งอัดแน่นเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาเอาใจลูกค้า

รุ่น Vignale

All-New Ford Focus จะมีรูปแบบการตกแต่งภายนอกหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น Vignale ที่จะมาหรูหรามีสไตล์ , ST-Line มาแนวสปอร์ตดุดัน , Active มาแนวครอสโอเวอร์ และ Titanium ที่มีแนวเรียบหรู มีรูปแบบตัวถังแบบแฮตซ์แบ็คและแวกอนให้เลือกใช้ (ตัวซีดานน่าจะไม่มีขายในยุโรปแล้ว แต่มีในตลาดจีนแน่นอนโดยอิงจากรูป Official ที่ปล่อยมา) โดยดีไซน์ภายนอกได้รับการออกแบบให้มีความทันสมัยและช่วงตัวถังโค้งมนมากกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน

รุ่น Active

ด้านหน้าจะมากับไฟหน้าทรงใหม่ที่สั้นลงแต่ตัวโคมใหญ่ขึ้น กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมที่จะมีรูปแบบลวดลายตะแกรงแตกต่างกันตามรูปแบบการตกแต่งตามที่บอกในย่อหน้าที่ผ่านมา เช่นเดียวกับกันชนหน้าที่จะออกแบบให้ดูแตกต่างเช่นเดียวกัน เส้นสายด้านข้างบนตัวถังมีความโค้งมนกว่าเดิมอย่างชัดเจน ในตัวถังแฮตซ์แบ็คและซีดานจะไม่มีกระจกโอเปร่าท้ายแล้ว ต่อเนื่องไปถึงด้านท้ายที่มากับโคมไฟท้ายแนวนอนทรงเรียวสวยงาม

รุ่น ST-Line

ภายในห้องโดยสารมีดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายแต่ดูทันสมัย ออกแบบให้มีปุ่มภายในน้อยลงเพื่อให้ใช้งานได้ง่าย การตกแต่งภายในก็จะแตกต่างกันตามรูปแบบภายนอกของรถ และยังเป็นครั้งแรกของ Ford ที่ติดตั้งจอ Head-Up Display มาให้ซึ่งสามารถปรับความสว่างได้ถึง 16 ระดับ สำหรับหน้าจอจะติดตั้งจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วโดยชาวยุโรปจะได้ระบบ FordPass Connect รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi hotspot บนมือถือเ และสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้มากถึง 10 เครื่อง โดยการใช้แอปพลิเคชันมือถือ FordPass ผู้ขับขี่จะได้ฟังก์ชั่นที่สามารถบอกตำแหน่งรถ สถานะของรถ, สามารถล็อคประตูได้, รวมทั้งระบบรีโมทสตาร์ท (ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด) และฟังก์ชัน eCall

ระบบอินโฟเทนเมนต์ของรถแน่นอนว่าจะหนีไม่พ้นระบบ SYNC 3รองรับการชาร์จแบบไร้สายและเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ได้ ระบบเครื่องเสียงจาก Bang & Olufsen กำลัง 675 วัตต์พร้อมลำโพง 10 ตัว มีซับวูฟเฟอร์ขนาด 140 มม. (5.5 นิ้ว)

ขนาดตัวถังของรถจะมีการขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น รวมทั้งเรื่องฐานล้อที่ยาวขึ้น 53 มิลลิเมตร ทำให้ภายในของรถกว้างขวางนั่งสบายกว่าเดิม และจุสัมภาระได้มากขึ้นด้วย ยังคงสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม C2 เหมือนรุ่นที่แล้วแต่ปรับปรุงให้มีความแข็งแรงขึ้น รับกับห้องโดยสารที่ใหญ่ขึ้น และมีค่าอากาศพลศาสตร์ดีขึ้นเพื่อให้ประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิม

ทางเลือกเครื่องยนต์ใน All-New Ford Focus จะมีทั้งเบนซินและดีเซล โดยจะมีทางเลือกดังนี้
เครื่องยนต์เบนซิน
- เบนซิน 1.0 ลิตร Ecoboost ที่มีพละกำลัง 3 ระดับ ได้แก่ 85, 100 และ 125 แรงม้า
- เบนซิน 1.5 ลิตร Ecoboost ที่มีพละกำลัง 2 ระดับ ได้แก่ 150 และ 182 แรงม้า
เครื่องยนต์ดีเซล
- ดีเซล 1.5 ลิตร Ecoblue ที่มีพละกำลัง 2 ระดับ ได้แก่ 95 และ 120 แรงม้า
- ดีเซล 2.0 ลิตร Ecoblue ที่มีพละกำลัง 150 แรงม้า
ทุกรุ่นจะมีทางเลือกเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ส่วนรุ่นเบนซิน 1.0 ลิตร Ecoboost 125 แรงม้า , เบนซิน 1.5 ลิตร Ecoboost 150 แรงม้า , ดีเซล 1.5 ลิตร Ecoblue 120 แรงม้า และ ดีเซล 2.0 ลิตร Ecoblue 150 แรงม้า จะมีทางเลือกเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดด้วย

Ford ได้ทำการติดตั้งเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นชุดระบบ Co-Pilot360 ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยทั้งในการขับขี่และการจอดรถ ที่จะประกอบด้วย
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชันตรวจจับคนเดินเท้า Automatic emergency braking with pedestrian detection
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Information System with Cross Traffic Alert
- ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในเลน Lane Keep Assist
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam
- กล้องมองหลัง

ระบบที่มีอีกก็คือ ระบบ Adaptive Cruise Control พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go ซึ่งสามารถจดจำความเร็วรถและช่วยรักษารถให้อยู่ในเลน ระบบสามารถทำงานได้ที่ความเร็วสูงสุดถึง 200 กม./ชม. นอกจากนี้ก็ยังมีระบบปรับมุมลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติตามการเลี้ยวของรถ Adaptive Front Lighting System พร้อมฟังก์ชั่น Predictive curve light และ Sign-based light

ระบบความปลอดภัยอื่นก็จะประกอบด้วยระบบช่วยจอดเองโดยอัตโนมัติ Active Park Assist , ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ Park-out Assist , ระบบป้องกันการชนพร้อมสัญญาณตรวจจับคนเดินถนนPre-Collision Assist with Pedestrian and Cyclist Detection , ระบบควบคุมพวงมาลัยไม่ให้ล้อหันไปหาจุดเสี่ยงที่จะเกิดการชน Evasive Steering Assist, ระบบเตือนคนขับไม่ให้ขับย้อนศร Wrong Way Alert และระบบช่วยหยุดรถ Post-Collision Braking