แต่เรากำลังจะมาพูดถึงเรื่อง Mazda BT-50 Pro กับความเป็นไปได้ที่จะมีเทคโนโลยี SkyActiv ในกระบะคันเก่งของพวกเขา แน่นอนว่าช่วงก่อนการเปิดตัวของ BT-50 Pro รุ่นปรับโฉม ก็มีหลายคนเหมือนกันที่แอบคาดหวังไว้ว่า Mazda จะนำเอาเทคโนโลยี SkyActiv บางส่วน นั่นก็คือขุมพลัง SkyActiv ของ Mazda นำมาใส่ให้กับกระบะคันนี้ แต่พอเปิดตัวมาแล้วความคิดทั้งหมดกลับหาเป็นเช่นนั้นไม่...
แน่นอนว่าช่วงหลังๆที่ผ่านมานั้นเทคโนโลยี SkyActiv ของ Mazda จะเริ่มมีคนให้ความสนใจให้กับคนไทย และเป็นเหมือนกำลังหลักในการสร้างยอดขายให้กับ Mazda กันเลยทีเดียว เนื่องจากรถเก๋ง รถ SUV รุ่นใหม่ๆของ Mazda ที่ออกมาแทบทุกคันจะมี SkyActiv แทบจะทุกคันจนแทบจะคุ้นหน้าคุ้นตากันหมด นั่นก็น่าจะทำให้ SkyActiv ถือเป็นหัวใจสำคัญของค่ายเลยก็ว่าได้ ชนิดที่ว่าถ้าพูดถึงแบรนด์ Mazda จะต้องนึกถึง SkyActiv ก่อนเลย
แต่ในช่วงที่ผ่านมานั้นถ้าใครติดตามข่าวดีๆ เราจะเห็นว่า Mazda นั้นจะเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี SkyActiv ใส่ในรถเก๋งและรถ SUV เป็นหลัก แต่สำหรับเทคโนโลยี SkyActiv ในกระบะนั้นกลับไม่มีข่าวคราวอะไรเลย หลายคนก็คงต้องคิดว่า เอ๊ะ...Mazda กำลังซุ่มพัฒนาเพื่อเอามาติดตั้งใน BT-50 Pro เจเนเรชั่นใหม่หรือเปล่า?
ซึ่งแน่นอนว่าคำตอบคือ...ไม่
แล้วทำไม Mazda ถึงไม่นำเอาเทคโนโลยี SkyActiv มาใส่กระบะเล่า Mazda มัวทำอะไรอยู่ ไหนๆรถเก๋งก็มีหมดแล้ว ทำไมไม่ใส่ให้กระบะบ้าง อย่ากั๊กสิ Mazda...
ใครที่คิดแบบนี้ ขอจงคิดใหม่เถิดครับ ขอร้องเลย ถ้าเราเข้าใจสาเหตุจริงๆแล้ว ก็น่าจะมีความเข้าใจในตัว Mazda เลยว่าที่เขาไม่ใส่มาเพราะเขามีเหตุผลนั่นเอง
หลายท่านน่าจะรู้ดีนะครับว่า กระบะของ Mazda นั้นได้รับการพัฒนาร่วมกับค่ายรถอย่าง Ford มานมนานมากแล้ว ฉะนั้นแล้วกระบะรุ่นไหนๆ ของ Mazda ก็จะทำร่วมกับ Ford ตลอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงสร้างตัวถัง เครื่องยนต์กลไก อะไหล่ต่างๆนั้นก็ใช้ร่วมกับ Ford ได้หมดเลย แล้วทีนี้ พอกระบะ Ford Ranger T6 Minor Change เปิดตัวออกมา แล้วเอามาเทียบกับ Mazda BT-50 Pro Minor Change กลายเป็นว่า Ford นำไม่เห็นฝุ่นเลย หลายคนก็คงสงสัยว่า ทำไมกระบะของ Ford นั้นกลับโดดเด่นกว่า Mazda แทบทุกด้านเลย หรือว่า Ford มีเงื่อนไขอะไรบางอย่างกับ Mazda หรือเปล่า
นั่นก็อาจจะเป็นเหตุผลที่แอบมีส่วนอยู่บ้างครับ..
Mazda เขาก็มีรถเก๋งและรถสปอร์ตรวมทั้ง SUV ในค่ายหลายคันเหมือนกัน ซึ่งการจะพัฒนารถแต่ละคันนั้นก็มีต้นทุนนั่นก็คือต้องใช้เงินพัฒนามากมายเหมือนกัน ฉะนั้นแล้วการมาร่วมพัฒนากระบะกับ Ford จึงเป็นทางเลือกในการลดต้นทุนของ Mazda ได้ และสาเหตุที่ Mazda ไม่ยอมเอาเครื่องยนต์ SkyActiv มาใส่ในกระบะ Mazda นั่นก็เพราะว่า..
ต้นทุนการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลนั้นถือว่าสูงพอสมควร และยิ่งใช้เทคโนโลยี SkyActiv ด้วย แต่ในเมื่อกระบะของ Mazda ทำร่วมกับ Ford อยู่ Mazda ก็จำต้องใช้ขุมพลังร่วมกับ Ford (แต่ผู้เขียนก็ยังแอบงงว่าทำไม Mazda ไม่ปรับแรงม้า 160 แรงม้าตาม Ford ในเครื่อง 2.2) แล้วทำไม Isuzu กับ Chevy ที่เขาพัฒนากระบะด้วยกันถึงแยกผลิตเครื่องต่างหากได้..ผู้เขียนเคยได้ยินว่าเครื่องยนต์ของ Isuzu กับ Chev อาจมีชิ้นส่วนบางอย่างที่ "ใช้ด้วยกัน" ได้ ซึ่งก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน อีกอย่างทั้งคู่ก็อยู่ภายใต้เครือ GM Motors ที่น่าจะมีเงินพัฒนามากกว่าค่าย Mazda ทั้งค่าย เลยสามารถทำให้กระบะ Isuzu กับ Chev มีเครื่องยนต์เป็นของตัวเองได้
ซึ่งถ้าใครต้องการให้ Mazda เอาเครื่องยนต์และเทคโนโลยี SkyActiv มาใส่ในกระบะของพวกเขา มีทางเลือกเดียวคือ "Mazda ต้องแยกทางกับ Ford และออกมาพัฒนากระบะด้วยตัวเองเท่านั้น " ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูงแน่นอน และพอลงทุนไปก็อาจจะไม่คุ้มสักเท่าไหร่ สู้เอาเงินส่วนนี้ไปต่อยอดรถเก๋งในค่ายยังจะดีเสียกว่าครับ
และทั้งหมดนี้ก็คือสาเหตุที่ Mazda ไม่ใส่เทคโนโลยี SkyActiv ในกระบะที่ผู้เขียนพยายามอธิบายขยายความให้ชัดเจนแจ่มแจ้ง หวังว่าหลายคนน่าจะเข้าใจ Mazda มากขึ้นครับ
มาร่วมพูดคุยกันสนุกๆเรื่องรถยนต์ประดุจเพื่อนข้างกาย
พร้อมเกาะติดข่าวการเปิดตัวรถใหม่กันแบบฉับไว
กดไลค์แฟนเพจของ Cars New Update ด้านล่างได้เลยครับ!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย