โดย Hyndai H-1 และ Hyndai Grand Starex เปิดตัวในประเทศไทยครั้งแรกช่วงปี 2551 และ 2553 ตามลำดับ โดยนับตั้งแต่เริ่มทำตลาดในเมืองไทย ทั้ง 2 รุ่นล้วนได้รับความนิยมและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้นทุกปี และสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่
รุ่นถูกสุด H-1 Touring จะมีหน้าตาที่แตกต่าง เพราะจะมาแนวเรียบๆหรูๆ โดยโฉมนั้นอ้างอิงจากเวอร์ชั่นออสเตรเลียที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆนั่นเอง
ภายในห้องโดยสารของ H-1 และ Grand Starex ใหม่ได้รับการออกแบบให้ดูหรูหราและทันสมัยกว่ารุ่นก่อนชัดเจน โดย H-1 ยังคงเป็นรถ 11 ที่นั่ง และ Grand Starex เป็นรถ 7 ที่นั่งตามเคย ในรุ่น H-1 Touring และ H-1 Elite จะได้เครื่องเล่นวิทยุแบบ CD 1 แผ่นแบบ 2 Din รองรับไฟล์ MP3 ระบบปรับอากาศแบบมือหมุนส่วน H-1 Deluxe และ Grand Starex ทุกรุ่นย่อยจะได้วิทยุเครื่องเล่น CD DVD แบบ 2 Din รองรับไฟล์มัลติมีเดียพร้อมหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูง 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ USB HDMI Bluetooth มีระบบ Wi-Fi สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ติดตั้งจอเพดานพับเก็บไฟฟ้า 13.3 นิ้ว สำหรับ Grand Starex VIP ตัวท็อปจะมีจอด้านหลัง 22 นิ้วตรงกลางติดมาให้ด้วยเช่นกัน
สำหรับเครื่องยนต์นั้น รถ 2 รุ่นนี้ยังคงไว้ซึ่งขุมพลังเดิมนั่นก็คือ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว CRDi ความจุ 2.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จแบบแปรผัน VGT พละกำลัง 175 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 441 นิวตัน-เมตรที่ 2,000-2,250 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะพร้อม Sequential shift
สำหรับระบบความปลอดภัยนั้น มีการเพิ่มเติมระบบความปลอดภัยใหม่ๆมาให้ด้วย ในบางรุ่นย่อย
โดยระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่มีทุกรุ่นย่อยได้แก่ ระบบป้องกันล้อล็อค ABS ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS สัญญาณกันขโมย กระจกไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนีบด้านคนขับ ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
สัญญาณเตือนกะระยะถอยหลัง และสำหรับรุ่น H-1 Deluxe และ Grand Starex ทุกรุ่นจะติดตั้งกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา อาศับการทำงานของกล้อง 4 ตัวรอบคัน และนอกจากนี้ใน Grand Starex ยังเพิ่มเติมระบบควบคุมการทรงตัว ESP ให้ในทุกรุ่นย่อยด้วย
Hyundai H-1 Minor Change มีให้เลือก 3 สีด้วยกัน ได้แก่ สีไฮเปอร์ เมทัลลิก, สีดำ ไทม์เลส แบล็ก และสีใหม่ สีน้ำตาล แทน บราวน์ แบ่งการจำหน่าย 3 รุ่นย่อยด้วยกัน
- H-1 Touring ราคา 1,289,000 บาท
- H-1 Elite ราคา 1,499,000 บาท
- H-1 Deluxe ราคา 1,679,000 บาท
ทางด้าน Hyundai Grand Starex มีให้เลือก 4 สีด้วยกัน ได้แก่ สีขาว อาร์ติก ไวท์, สีไฮเปอร์ เมทัลลิก, สีดำ ไทม์เลส แบล็ก และสีน้ำตาล ซาฮาร่า บรอนซ์ มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย
- Grand Starex Premium ราคา 2,349,000 บาท
- Grand Starex VIP ราคา 2,399,000 บาท
มาร่วมติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่นี่ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย