ภายนอกของรถได้รับการปรับปรุงใหม่เล็กน้อย มีการปรับเปลี่ยนกระจังหน้าของรถใหม่ให้ดูดีกว่าเดิม พร้อมปรับเปลี่ยนรายละเอียดของไฟหน้าใหม่ให้ดูดีขึ้นเช่นกัน ในรุ่นล่างสุดจะออกแบบกันชนใหม่ด้วย ส่วนด้านท้ายรถมีการเปลี่ยนไฟท้ายใหม่ให้ทันสมัยขึ้น พร้อมเปลี่ยนล้ออัลลอยลายใหม่ในทุกรุ่นย่อย
ภายในห้องโดยสารมีการเปลี่ยนแปลงพวงมาลัยใหม่ตามรุ่นอื่นๆ ตกแต่งภายในห้องโดยสารให้หรูหรามีระดับกว่าเดิม สำหรับฟีเจอร์เด่นๆของรถซึ่งจะมีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยของรถ ได้แก่ จอแสดงผลแบบ LED : Hi-Grade Multi-Function Display ชุดเครื่องเสียงแบบพรีเมี่ยมจาก Harman/Kardon กำลังขับ 400 วัตต์ พร้อมลำโพง 8 ตัว ใช้วัสดุเก็บเสียงรูปแบบใหม่ และฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ นอกจากนี้ Subaru ยังปรับปรุงเรื่องการเก็บเสียงด้วยการเพิ่มความหนาของกระจกเพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอกด้วย
สำหรับขุมพลังของรถตอนนี้มีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน Boxer 4 สูบ 16 วาล์ว ความจุ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) ที่ 6,200 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT Lineartronic
และขุมพลังแรงอย่างเครื่องยนต์เบนซิน Boxer 4 สูบ 16 วาล์ว 2.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ กำลังสูงสุด 241 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT Lineartronic เช่นเดียวกับเครื่อง 2.0 ลิตรธรรมดา
ทุกรุ่นจะได้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตร Symmetrical AWD พร้อมระบบ Intelligent Drive หรือ SI-Drive (SubaruIntelligent Drive) โดยผู้ขับขี่นั้นสามารถเลือกโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพถนนได้
สำหรับระบบความปลอดภัยเด่นๆของรถ ก็จะมีถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรคค้าง Auto Vehicle Hold, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control รวมทั้งระบบไฟเลี้ยวแบบ One Touch Turn Signal
สำหรับ Subaru Forester Minor Change มีให้เลือก 3 รุ่นย่อยด้วยกัน โดย 2 รุ่นย่อยแรกนั้นจะเป็นรุ่นประกอบในมาเลเซีย ได้แก่
- 2.0 i ราคา 1,398,000 บาท
- 2.0 i-Premium ราคา 1,498,000 บาท
และรุ่นท็อปสุด เครื่องเทอร์โบ ที่นำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคัน
-2.0 XT ราคา 2,290,000 บาท
ภาพจาก Motortrivia
มาร่วมติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่นี่ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย