จุดเด่นของ Mitsubishi Xpander ก็คือดีไซน์ที่โดดเด่นและห้องโดยสารที่มากด้วยอรรถประโยชน์ ด้วยรูปลักษณ์ที่ผสมผสานระหว่างรถอเนกประสงค์ SUV Crossover กับรถ MPV เหมือนเช่น Honda BR-V แต่ Xpander จะมีดีไซน์ที่ค่อนข้างบึกบึนและดูล้ำกว่า BR-V อยู่หลายขุมทีเดียว
แน่นอนว่าดีไซน์ของ Xpander จะถอดแบบมาจากรถต้นแบบ XM Concept ซึ่งดูๆแล้วตัวรถก็มีความคล้ายคลึงกับต้นแบบราวๆ 80% ตามที่ Mitsubishi ว่ามาเลย ดีไซน์ด้านหน้ามากับ Design Language ยุคล่าสุดของค่ายอย่าง Dynamic Sheild มากับโคมไฟ LED Daytime Running Lights ถัดลงมาจะเป็นไฟหน้าทรงเหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่ และลงมาอีกก็จะเป็นไฟตัดหมอก ดีไซน์การจัดตำแหน่งไฟคล้ายคลึงกับ Nissan Juke และ Hyundai Kona ด้วยดีไซน์กันชนหน้า-ท้าย และซุ้มล้อขนาดใหญ่ทำให้รถดูบึกบึนเหมือน SUV ไม่น้อย ด้านข้างมีการเสริมขอบโครเมี่ยมบริเวณประตูเพิ่มความหรูหรา ดีไซน์เส้นสายมาในแนว Floating Roof ในส่วนไฟท้ายนั้นจะเป็นแบบ LED ทรงสวย
Mitsubishi Xpander จะมากับล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว สวมด้วยยาง 205/55 Dunlop (ยกเว้นรุ่น GLS ที่จะได้ล้อ 15 นิ้ว) ระบบกันสะเทือนหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม
Mitsubishi Xpander มีสัดส่วนความยาวตัวถัง 4,475 มิลลิเมตร กว้าง 1,750 มิลลิเมตร (ยาวกว่า BR-V 22 มิลลิเมตร และกว้างกว่า 15 มิลลิเมตร) มีระยะฐานล้อยาว 2,775 มิลลิเมตร ซึ่งยาวกว่าของ Honda BR-V 115 มิลลิเมตร ระยะความสูงจากพื้นดินถึงพื้นรถ 205 มิลลิเมตร สูงกว่า BR-V 4 มิลลิเมตรและยังสูงที่สุดในบรรดาคู่แข่งด้วย
ภายในห้องโดยสารมาในแนวเรียบง่าย มีโทนสี 2 แบบคือสีเบจและสีดำ มีการขึ้นรูปตะเข็บ (จากภาพน่าจะปลอม) บริเวณคอนโซลและแผงประตู พวงมาลัยใช้ทรงเดียวกับ Mitsubishi Mirage มาตรวัดออกแบบให้มีดีไซน์ที่ทันสมัยพร้อมจอ LCD แสดงผลข้อมูลการขับขี่ตรงกลาง
อุปกรณ์มาตรฐานอืื่นๆของ Xpander จะมีกุญแจอัจฉริยะ Keyless Entry พร้อมปุ่มสตาร์ท พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง เบาะแถวสามสามารถพับแบบ 50:50 ได้ ในรุ่นท็อปจะมากับชุดหน้าจอสัมผัส รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และกล้องมองหลัง
แถวกลางสามารถพับเก็บได้ในตลบเดียวเพื่อความสะดวกสบายในการเข้าไปนั่งแถวที่ 3 นอกจากนี้เบาะแถวกลางยังมีที่วางแขนมาให้ สำหรับพื้นที่สัมภาระด้านหลังบริเวณด้านท้ายจะมีที่เก็บยางอะไหล่รถมาให้
ขุมพลังจะมีทางเลือกเพียงแบบเดียวคือ เครื่องยนต์เบนซินรหัส 4A91 ความจุ 1.5 ลิตร MIVEC มากับกำลังสูงสุด 104 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ระบบเบรกด้านหน้าเป็นแบบดิสก์และหลังเป็นดรัมเบรก
สำหรับระบบความปลอดภัยจะได้ระบบเบรก ABS EBD ถุงลมนิรภัยคู่หน้าเป็นมาตรฐาน ส่วนระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน จะได้ในรุ่นบนๆ
Mitsubishi Xpander ในอินโดนีเซียจะมีทางเลือก 5 รุ่นย่อย ได้แก่
- 1.5 GLX MT ราคา 189,050,000 รูเปียห์ หรือประมาณ 472,000 บาท
- 1.5 GLS MT ราคา 208,550,000 รูเปียห์ หรือประมาณ 521,000 บาท
- 1.5 Exceed MT ราคา 214,550,000 รูเปียห์ หรือประมาณ 536,000 บาท
- 1.5 Sport AT ราคา 224,950,000 รูเปียห์ หรือประมาณ 562,000 บาท
- 1.5 Ultimate AT ราคา 245,350,000 รูเปียห์ หรือประมาณ 613,000 บาท
และจะผลิตในโรงงานแห่งใหม่ที่เมืองเบกาซี ประเทศอินโดนีเซียด้วยกำลังการผลิต 80,000 คันต่อปี การส่งออกไปยังตลาดอาเซียนจะเริ่มในปี 2018
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย