บอกลาความคิดที่ว่าเป็นแค่ Vios เอามาเปลี่ยนหน้าขายได้เลย เพราะรถคันนี้เป็นการขัดเกลาตัวถังใหม่เกือบทั้งคัน เป็นรูปโฉมแบบใหม่ที่ไม่เคยขายที่ไหนมาก่อน เป็นการเปิดตัวครั้งแรกในโลก จากภาพในทีเซอร์จะเห็นโคมไฟหน้าโปรเจคเตอร์และไฟ LED Daytime Running Lights บริเวณกันชน เส้นสายด้านข้างดูโค้งมนและปราดเปรียวกว่า Vios รวมทั้งไฟท้ายใหม่แบบ LED ทรงเรียว ส่วนภายในห้องโดยสารยังไม่มีภาพออกมา
ขุมพลังของรถจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC Dual VVT-i เหมือนใน Yaris 5 ประตูที่วางขายอยู่ รองรับเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ 91 , 95 และ E20 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม Shift Link (ข้อมูลที่ได้มา ไม่มีเกียร์ธรรมดา) และยังไม่มีข้อมูลรถคันนี้เข้าโครงการอีโคคาร์เฟส 1 หรือ เฟส 2
Toyota Yaris ATIV จะมีรุ่นย่อยทั้งหมด 5 รุ่นย่อย และสเปคคร่าวๆดังนี้
1.2 J ECO
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
- ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC
- ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
- ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร
- เซ็นทรัลล็อค
- กุญแจรีโมท Wireless Door Lock
1.2 J (สิ่งที่เพิ่มเติมจาก 1.2 J ECO)
- ล้อกระทะพร้อมฝาครอบขนาด 15 นิ้ว
- กระจกไฟฟ้า 4 บาน
- เครื่องเล่นวิทยุ 2DIN CD MP3
1.2 E (สิ่งที่เพิ่มเติมจาก 1.2 J)
- สัญญาณกันขโมย
- สัญญาณกะระยะถอยหลัง
- ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Auto A/C
- จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID
- รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth
1.2 G (สิ่งที่เพิ่มเติมจาก 1.2 E)
- ไฟหน้าโปรเจคเตอร์
- Push Start & Smart Entry
- ไฟตัดหมอกหน้า
1.2 S (สิ่งที่เพิ่มเติมจาก 1.2 G)
- เครื่องเล่น DVD จอสัมผัส
- กล้องมองหลัง
- จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ TFT
- การตกแต่งแบบสปอร์ต
การตกแต่งภายในห้องโดยสาร ในรุ่น 1.2 J ECO , 1.2 J บังคับสีดำทั้งหมด ส่วนรุ่น 1.2 E และ 1.2 G มีให้เลือกทั้งสีเบจและสีดำ ส่วนรุ่นท็อปสุด 1.2 S จะมีให้เลือกแค่สีดำเท่านั้น
สีตัวถังของ Toyota Yaris Sedan จะมีให้เลือก 7 สีด้วยกัน และทุกสีสามารถเลือกได้ในทุกรุ่นย่อย
- สีขาว Super White
- สีบรอนซ์เงิน Silver Metallic
- สีเทา Gray Metallic
- สีดำ Attitude Black Mica
- สีแดง Red Mica Metallic / Welfire
- สีน้ำตาล Quartz Brown Metallic
- สีน้ำเงิน Dark Blue Mica Metallic (สีใหม่ที่เห็นใน Teaser)
สำหรับราคาค่าตัวนั้น ได้ยินแว่วๆว่าเท่า Yaris 5 ประตูที่ขายในไทยตอนนี้ (469,000-599,000 บาท *ไม่รวมตัว TRD) ส่วนรุ่นท็อปอาจจะอยู่ที่ 6 แสนต้นๆ แต่ราคานี้อาจจะเป็นราคาพิเศษก่อนจะปรับขึ้น 10,000-20,000 บาท ทั้งนี้ก็ต้องรอติดตามรายละเอียดเต็มๆได้วันที่ 15 สิงหาคมนี้ครับ
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ