วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557

Chevrolet Captiva Minor Change 2014 แต่งหล่อนิดๆพิชิตคู่แข่งในตลาด

  ตลาดรถอเนกประสงค์ถือเป็นตลาดที่มีกำลังการเติบโตสูงทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย สำหรับประทศไทยนั้นถือว่าเป็นตลาดที่มีการเติบโตเช่นกัน ดังที่เห็นได้จากการที่ค่ายต่างๆ ส่งน้องใหม่ทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กเข้าร่วมประกวดอย่าง Subaru XV หรือ Mazda CX-5 และ Nissan Juke ต่างก็ได้รับเสียงตอบรับดีทั้งสิ้น ดังนั้นหน้าเก่าๆที่มีอยู่ในตลาดอย่าง Chevrolet Captiva จึงต้องกระตุ้นตลาดด้วยการส่งรุ่นไมเนอร์เชนจ์ลงตลาด เพื่อมาปะทะกับคู่แข่งที่มีอยู่ในตอนนี้
   Chevrolet Captiva ถือเป็นรถ SUV คันหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากรองจาก Honda CR-V ซึ่งที่ผ่านมาก็สามารถทำยอดขายได้กว่า 35,000 คัน ซึ่งทาง Chevrolet เคลมว่าการปรับใหม่เจ้า Captiva ครั้งนี้ทำให้มันมีทันสมัยมากสุดในกลุ่มตลาดยานยนต์เวลานี้
    กุสตาโว โคลอซซี  รองประธานฝ่ายขาย การตลาดและบริการหลังการขาย ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดและบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวไว้ว่า แคปติวาดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถเอสยูวีที่เพียบพร้อม ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกอันสะดุดตา ภายในห้องโดยสารที่หรูหรา และสมรรถนะการขับขี่อันน่าประทับใจ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ได้รับการติดตั้งเพิ่มเติม แคปติวา 2014 จะตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
   การเปลี่ยนแปลงในส่วนของหน้าตารถต้องขอบอกได้เลยว่า มันเปลี่ยนตรงไหนเนี่ย หากใครตาไม่ดีเนี่ย บอกได้เลยว่า ดูไม่ออกครับ เพราะหน้าตามันเปลี่ยนน้อยนิดจริงๆ โดยกันชนหน้ารถได้รับการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย กันชนด้านล่างได้รับการออกแบบใหม่ กรอบไฟท้ายแบบใหม่พร้อมท่อไอเสียแบบคู่ ในรุ่นดีเซล LTZ จะมีบันไดข้างมาให้ ส่วนรุ่น LT จะติดตั้งล้ออัลลอย 18 นิ้ว สรุปง่ายๆ เปลี่ยนแค่นี้จะสู่ใครเขาไหวเหรอ
   ฟีเจอร์ใหม่ที่ค่ายโบว์ไทน์ติดมาให้ก็คือ ระบบเข้า-ออกห้องโดยสารโดยไม่ต้องใช้กุญแจ (Passive Entry Passive Start - PEPS) ผู้ขับขี่สามารถปลดล็อกประตู และสตาร์ทเครื่องยนต์เมื่ออยู่ในรัศมีของเซ็นเซอร์ โดยไม่ต้องถือกุญแจอยู่ในมือ
   ภายในได้รับการออกแบบเพิ่มช่องปรับอากาศเพื่อความเย็นสบายของผู้โดยสารตอนที่ 3 เบาะรองรับผู้โดยสาร 5-7 ที่นั่ง พร้อมเนื้อที่บรรทุกสัมภาระแบบจุใจ 930 ลิตร ระบบเครื่องเสียงในเทคโนโลยีแบบ 3 มิติ พร้อมลำโพงถึง 8 ตัวเพื่อคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม
   นอกจากนี้ยังคงมีระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิแยกซ้าย-ขวา (แต่ไม่มีฮีตเตอร์ มีคนบ่นรุ่นนี้พอควรเพราะเรื่องนี้ ไม่รู้รุ่น MC แก้ยัง) สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงพวงมาลัยแบบเรืองแสง ที่ควบคุมเครื่องเสียงและยังควบคุมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ด้วย
   Chevrolet Captiva 2014 ยังคงมีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 บล็อก ได้แก่ เครื่องเบนซิน 2.4 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 168 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 229 นิวตันเมตร ที่สำคัญเครื่องตัวนี้สามารถรองรับเชื้อเพลิง E85 ได้ด้วย และเครื่องยนต์อีกตัวหนึ่ง เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร มากับพละกำลัง 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 163 นิวตันเมตร ส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 สปีด รหัส GF6 เจนเนอเรชั่นที่ 2 พร้อมฟังก์ชั่น DSC (Driver Shift Control)
   ระบบความปลอดภัยของ Chevrolet Captiva 2014 ยังคงให้มาครับทั้ง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบช่วยเบรกไฮโดรลิก (HBA) ระบบกระจายแรงเบรกอิเลกทรอนิก (EBD) ระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP) และระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (ARP) ระบบป้องกันการลื่นไหลของรถเมื่อขึ้นทางลาดชัน (HSA) ซึ่งป้องกันไม่ให้ตัวรถไหลถอยหลัง เมื่อผู้ขับขี่ยกเท้าออกจากเบรกบนทางลาดชัน พร้อมด้วยระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) ซึ่งทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS และ EBD ในการรักษาความเร็วของตัวรถเมื่อลงทางลาดชันและมีความลื่น เพื่อเพิ่มเสถียรภาพและการคุมพวงมาลัยให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและม่านถุงลมนิรภัย รวมถึงเข็ดขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติอีกด้วย
   สำหรับราคานั้น ต้องรอประกาศจากทาง Chevrolet ภายในงาน Bangkok Motor Show 2014 ครับผม ใครเป็นสาวกค่ายโบว์ไทน์อยู่แล้ว รอชมได้เลย แต่ขอบอกว่างานนี้จะมาสู้กับคู่แข่งทีสดใหม่กว่าอย่าง CR-V และ CX-5 ได้หรือใหม่ ต้องรอชมกันเอาเอง!
  แนะนำ ติชม แสดงความคิดเห็น และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแฟนเพจ Cars New Update ที่นี่!!

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box