บทสรุปเบื้องต้น Eco Car Phase 2 : ค่ายใหญ่โดดรับข้อตกลง 7 ค่าย ยังลังเล 2 ค่าย

  โครงการ Eco Car เฟสแรกของทาง BOI ที่ประสบความสำเร็จไปแล้ว คราวนี้ก็มีโครงการ Eco Car Phase 2 มาช่วยสานต่อความสำเร็จอีกครั้ง โดยข้อสรุปทั้งหมดจะต้องเส็จสิ้นภายในเดือน "มีนาคม" นี้เท่านั้น โดยบทสรุปของมหากาพย์เรื่องนี้เหมือนจะมาเร็วเกินคาด เมื่อมี 7 ค่ายใหญ่ตอบปากรับคำว่าจะไฟเขียวโครงการนี้ และอีก 2 ค่ายที่ยังลังเลอยู่
   ค่ายรถยนต์ทั้งหมด 7 ค่ายที่แน่นอนว่าจะตบปากรับคำแน่นอนว่าจะเข้าร่วมโครงการนี้แล้ว ก็ได้แก่ Toyota,Honda,Nissan และ Suzuki รวมถึงผู้เล่นรายใหม่ Mazda,Ford และ Chevrolet ซึ่งบางค่ายอาจติดขัดในหลักการบ้าง ส่วน 2 ค่ายที่ยังลังเลก็คือผู้เล่นรายเดิม Mitsubishi ซึ่งลงทุนในเฟสแรกไปแล้วด้วยเม็ดเงินมหาศาลจะขอเจรจากับรัฐบาลอีกครั้ง ส่วนผู้เล่นรายใหม่ SAIC ยอมรับว่าสนใจโครงการนี้ แต่จะไม่นำแบรนด์ Volkswagen เข้าโครงการแน่ๆ

   เริ่มที่พี่ใหญ่อย่าง Toyota ที่ตัดสินใจแน่นอนแล้วกับโครงการนี้ว่าเข้าร่วมแน่ๆ หลังจากประสบความสำเร็จกับอีโคคาร์ Toyota Yaris โดยนายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้บอกไว้ว่า หากมองในเรื่องของตลาดและการเติบโตแล้วถือว่าตัวรถยนต์อีโคคาร์เองก็ถือว่ามีความน่าสนใจและมองว่ายังเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอยู่ Toyota จึงตัดสินใจลงทุนในโครงการดังกล่าวเพิ่มเติม โดยทาง Toyota ได้ตัดสินใจว่าจะส่งเอกสารเพื่อขอรับการส่งเสริมการลงทุนในโครงการ Eco Car Phase 2 ที่จะหมดเขตการยื่นภายในวันที่ 31 มี.ค. 2557 นี้ครับ

   ค่าย Honda ที่แม้จะแป้กกับ Honda Brio และ Honda Brio Amaze ยอดขายรั้งท้ายใครๆเขาตลอด ดูเหมือนว่าจะยังไม่ยอมแพ้กับรถขนาดเล็ก โดยนายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยไว้ว่า บริษัทฯ ได้ตัดสินใจยื่นเรื่องเพื่อขอสนับสนุนการลงทุนในโครงการเฟส 2 เช่นเดียวกัน แม้ว่าจะมีเรื่องที่ต้องพูดคุยกับรัฐบาลเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้ในอนาคต โดยทาง Honda ได้มองในเรื่องของผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการที่ลงทุนในเฟส แรกด้วยว่าจะมีผลกระทบจากโครงการนี้อย่างไรบ้าง ภาพรวมของตลาดที่จะเกิดขึ้นจากนี้ ซึ่งคงต้องพูดคุยเพื่อเสนอปัญหาและแนวทางข้อสรุปที่จะเกิดขึ้นกับรัฐบาลอีกครั้ง

   ค่าย Nissan ที่ประสบความสำเร็จกับ March และ Almera มาแล้ว ก็เป็นอีกค่ายที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ โดยนายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดได้บอกกล่าวไว้ว่า การได้เปรียบเสียเปรียบในกลุ่มผู้ที่ลงทุนเฟสแรกและเฟส 2 นั้น มองได้หลายมุม หากมองในแง่ของเงินลงทุนที่ผู้ที่ลงทุนตั้งแต่เฟสแรกจะต้องลงทุนมากกว่าก็ เป็นเรื่องที่เสียเปรียบ แต่หากมองว่ามีการทำตลาดมาก่อน มีกลุ่มลูกค้าที่เหนียวแน่น เช่น นิสสันที่ขายไป 2 แสนคัน ก็อาจจะเป็นแต้มต่อได้เช่นเดียวกัน

   ค่าย Suzuki ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ Swift และกำลังสานต่อความสำเร็จด้วย Celerio รวมถึงโมเดลใหม่ที่อาจตามมาในอนาคตและอาจเป็น Eco Car 2 ก็ได้ โดยนายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า โครงการนี้อาจทำให้ส่งผลกระทบต่อตลาดรถเครื่องยนต์ 1.5-1.8 ลิตร และคนที่เล่นรถมือ 2 จะหันมาซื้อรถป้ายแดงกันมากขึ้น แน่นอนว่าประเด็นในเรื่องของการผลิต 1 แสนคันนั้นอาจจะยังมีข้อสงสัยอยู่ แต่ทาง Suzuki ชื่อว่าตลาดรถยนต์ในประเทศไทยจะเปลี่ยนไป การซื้อรถคันเดียวเพื่อใช้งานทุกอย่างคงน้อยลง หันมาใช้รถยนต์ตามความต้องการที่แท้จริงมากขึ้น ทำให้ตลาดอีโคคาร์ เฟสสองน่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

   มาดูฝั่งผู้เล่นรายใหม่กันบ้าง เริ่มที่ค่าย Mazda ที่ต้องการลงเล่นตลาดอีโคคาร์ด้วยเช่นกัน โดยทาง Mazda จะต้องศึกษารายละเอียดให้แน่ชัดเสียก่อนแล้วถึงเริ่มได้ เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ เม็ดเงินลงทุนมาก โดยนาย โชอิชิ ยูกิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญตอนนี้ก็คือทั้ง BOI และรัฐบาลเองไม่สามารถอนุมัติโครงการได้เพราะบอร์ด BOI หมดอายุไปตั้งแต่ปีที่ผ่านมาและรัฐบาลรักษาการณ์ไม่สามารถแต่งตั้งบอร์ดใหม่ได้ ทำให้ BOI ไม่สามาถอนุมัติโครงการที่มูลค่าเกินกว่า 200 ล้านบาทได้ ซึ่งจะทำให้ข้อจำกัดในเรื่องการผลิตที่ 1 แสนคันภายในปี 2562 ก็จะถูกบีบเวลามากขึ้น

   ค่าย Ford เป็นอีกค่ายที่สนใจเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์เช่นกัน และไฟเขียวเรียบร้อยแล้วโดย Ford ได้ยื่นเอกสารเพื่อขอรับการส่งเสริมการลงทุนอีโค คาร์ เฟส 2 ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมาแล้ว โดยนางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย ได้บอกว่า Ford ได้ศึกษาและทำความเข้าใจในเงื่อนไขที่ ฺBOI กำหนดแล้วและมีความพร้อมที่จะดำเนินการตามเงื่อนไขที่วางไว้ ซึ่งที่ผ่านมา Ford ได้ลงทุนในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และถือเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน โดยมีโรงงานผลิตถึง 2 แห่งในประเทศไทย

   และค่ายสุดท้ายก็คือ Chevrolet ที่ไฟเขียวเข้าร่วมโครงการแล้ว โดยนายมาร์คอส เพอร์ตี กรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม ประเทศไทยและบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย จำกัด ได้เปิดเผยว่า ได้ยื่นเรื่องขอเข้าร่วมโครงการแล้ว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดขายของ Chevrolet ในเซกต์เมนต์ใหม่ด้วย และยังสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจที่จีเอ็มยังให้ความสำคัญในภูมิภาคนี้โดยมีไทยเป็นศูนย์กลางในการเติบโตในภูมิภาค

   ส่วนค่ายที่เคยลงทุนแล้วยังลังเลในโครงการนี้ก็คือ Mitsubishi ซึ่งต้องขอเจรจากับรัฐบาลอีกครั้ง เพื่อขอให้พิจารณาการลงทุนจากโครงการอีโคคาร์เฟสแรก ปรับมาใช้กับโครงการใหม่ เนื่องจากบริษัทฯ ได้ลงทุนไปเป็นจำนวนมากกับโครงการแรก

   และอีกค่ายน้องใหม่ SAIC สนใจในการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวเช่นเดียวกันครับ แต่กำลังศึกษาอยู่ว่าจะนำรถรุ่นไหนเข้าร่วมโครงการและโครงการนี้ต้องใช้เงินลงทุนสูงด้วย และก็มีข่าวลือว่า จะใช้แพลตฟอร์มและนำแบรนด์ Volkswagen ทำตลาด ต้องขอบอกว่าค่าย SAIC จะไม่ใช้แพลตฟอร์มของ VW แน่นอน จะเป็นโมเดลไหนกำลังตัดสินใจอยู่ครับ
   แม้ว่าจะมีหลายค่ายที่ไฟเขียวเข้าร่วมโครงการนี้แล้ว แต่ยังมีปัญหาอีก 2 ประการ คือ บอร์ดของ BOI ที่หมดอายุและรัฐบาลรักษาการณ์ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ทำให้โครงการนี้ยังเดินหน้าต่อไปไม่ได้ และเราต้องมารอกันว่าค่ายไหน ค่ายใดจะได้รับการอนุมัติไฟเขียวให้ผลิตในโครงการบ้าง และได้รับการอนุมัติเมื่อไหร่ เรื่องนี้เป็นเรื่องราวทางตลาดยานยนต์ที่คอข่าวรถยนต์ต้องติดตามกันต่อไปครับ  

  แนะนำ ติชม แสดงความคิดเห็น และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแฟนเพจ Cars New Update ที่นี่!!