ซึ่งหน้าตาของมันก็ได้ปฏิวัติการออกแบบจาก GLK-Class แบบไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลย มันดูโค้งมนกว่าเดิมแทบทุกมิติ แต่มันก็ยังไม่ทิ้งความเป็น SUV ออกไป ด้านหน้ารถก็ได้รับการออกแบบตามแนวทางของ Mercedes-Benz ยุคใหม่ ไฟหน้าทรงงามและกระจังหน้าพร้อมโลโก้ตราดาวขนาดใหญ่ กันชนหน้าที่ออกแบบให้เข้ากับหน้าตาของตัวรถ รุ่นธรรมดาก็จะมาพร้อมกันชนหน้าเสริมโครเมียม ส่วนรุ่น AMG ก็จะออกแบบกันชนให้สปอร์ตปนบึกบึนสมกับ SUV เส้นสายตัวรถออกแบบให้ดูปราดเปรียวกว่าเดิมประดุจรถเก่ง แต่ก็ยังมีความเป็นอเนกประสงค์ปนอยู่ ไฟท้ายก็ได้ออกแบบให้ดูเรียวกว่าเดิม โดยรวมถือว่าสวยลงตัวกว่าเดิมมาก
และด้วยผลพวงจากการใช้วัสดุอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาและโลหะทนแรงบิดสูง ทำให้มันสามารถลดน้ำหนักตัวถังจาก GLK ได้ถึง 80 กก. แม้ว่าตัวถังจะใหญ่กว่า GLK ก็ตาม และด้วยความโค้งมนและปราดเปรียวของตัวถัง ทำให้มันมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทางที่ 0.31 Cd ต่างจากรุ่น GLK ที่ทำได้ 0.34 Cd และคู่แข่ง BMW X3 อยู่ที่ 0.33 Cd
ภายในห้องโดยสารนั้น คอนโซลของรถยกมาจาก Mercedes-Benz C-Class แทบทั้งดุ้นเลย แต่ได้ตกแต่งภายในห้องโดยสารใหม่ให้ดูหรูหราและแตกต่างจาก C-Class ซึ่งมันก็ดีครับ เพราะ ทำให้บรรยากาศภายในดูเป็นรถเก๋ง แม้ตัวรถจะเป็น SUV น่าจะถูกใจใครๆหลายคนเลย ซึ่งแน่นอนว่างานภายในห้องโดยสารมาพร้อมความหรูหราและประณีตสมราคาคุย และยังมีระบบอินโฟเทนเมนต์ที่ทันสมัยด้วยจอ Head-Up Display ตรงกลางที่แสดงผลต่างๆครบถ้วน
สำหรับขุมพลังของ GLC-Class ใหม่มีให้เลือกดังนี้ครับ
- GLC 220d 4MATIC พละกำลัง 170 แรงม้า PS แรงบิด 400 นิวตันเมตร
- GLC 250d 4MATIC พละกำลัง 204 แรงม้า PS แรงบิด 500 นิวตันเมตร
- GLC 250 4MATIC พละกำลัง 211 แรงม้า PS แรงบิด 350 นิวตันเมตร
- GLC 300 4MATIC พละกำลัง 241 แรงม้า PS แรงบิด 370 นิวตัน-เมตร
และไฮไลต์สำคัญอยู่ที่รุ่น GLC 350e ซึ่งเป็นรุ่นขุมพลัง Plug-In Hybrid มากับพละกำลัง 211 แรงม้า อันประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าผนวกกับเครื่องยนต์พละกำลัง 116 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.9 วินาที สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าเพียวๆ 34 กม.
ทั้งหมดส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9G Tronic เว้นแต่รุ่นที่เป็นลูกผสม Hybrid จะส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7G Tronic ที่อัพเกรดใหม่
อีกหนึ่งความพิเศษที่ Mercedes-Benz จะรังสรรค์ให้ท่านได้สัมผัสกับคุณภาพการขับขี่ก็คือ ระบบช่วงล่างแบบ AIR BODY CONTROL ช่วงล่างถุงลมที่คอยรองรับและควบคุมด้วยไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ และยังมีโหมดการขับขี่ DYNAMIC SELECT ให้เลือกใข้ อันได้แก่ โหมด Sport , โหมด Comfort ,Sport+, Eco และ Individual ให้เลือกใช้อีกด้วย
สำหรับระบบความปลอดภัยของรถและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ทั้งหลายนั้น ทาง Mercedes-Benz ก็จัดมาให้เต็มๆ โดยทุกรุ่นจะได้ระบบเหล่านี้เป็นมาตรฐาน อันได้แก่
- ระบบป้องกันการชน COLLISION PREVENTION ASSIST PLUS
- ระบบช่วยลดลมปะทะด้านข้าง Crosswind Assist
- Headlamp Assist
- ATTENTION ASSIST
ส่วนระบบเหล่านี้จะเป็นออปชั่นเสริมในแพ็คแกจเพิ่มเติม
- DISTRONIC PLUS (พร้อม Steering Assist และ Stop&Go Pilot)
- PRE-SAFE Brake พร้อม pedestrian detection ตรวจจับคนเดินถนนได้
- BAS PLUS พร้อม Cross-Traffic Assist
- Active Blind Spot Assist
- Active Lane Keeping Assist
- PRE-SAFE PLUS.
สำหรับราคาค่าตัวยังไม่มีการประกาศออกมา แต่ที่แน่นอนที่สุดคือ ทาง Mercedes-Benz จะทำเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวาออกจำหน่ายเพื่อเอาใจตลาดพวงมาลัยขวาด้วย ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า GLC-Class อาจจะเข้ามาขายในเมืองไทยได้ รอชมต่อไปครับ
ภาพจาก Carscoops และเนื้อหาบางส่วนจาก Headlightmag
มาร่วมพูดคุยกันสนุกๆเรื่องรถยนต์ประดุจเพื่อนข้างกาย
พร้อมเกาะติดข่าวการเปิดตัวรถใหม่กันแบบฉับไว
พร้อมเกาะติดข่าวการเปิดตัวรถใหม่กันแบบฉับไว
กดไลค์แฟนเพจของ Cars New Update ด้านล่างได้เลยครับ!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย