และในปีนี้ก็ถือว่าเป็นปีสำคัญของตลาดรถกระบะและรถอเนกประสงค์พื้นฐานกระบะ (คนไทยเรียกกันเองว่า PPV) ที่จะมีทั้งรุ่นไมเนอร์เชนจ์และโมเดลเชนจ์ทยอยเปิดตัวให้ลูกค้าได้เลือกใช้กันหลายรุ่นทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าทำให้ปีนี้เป็นอีกปีที่น่าจับตามองในเรื่องวงการยานยนต์อย่างมากทีเดียว
ค่ายรถที่เริ่มเปิดศึกครั้งแรกนั่นก็คือค่าย Mazda กับการปล่อย Mazda 2 โฉมใหม่ออกจากคอกมาท้าชิงตลาด B-Segment ด้วยจุดขายเด่นๆอย่างเครื่องยนต์ดีเซล ที่แม้ว่าจะราคาสูงแค่ไหน คนไทยก็ยอมจ่ายเพื่อใช้รถดีๆ สมรรถนะเยี่ยมๆแบบนี้ ซึ่งต่อมาก็เปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตรเป็นทางเลือกเพิ่มเติมอีก ต่อมาก็เป็นทีของ Nissan ที่แอบปล่อย Nissan NP300 Navara รุ่นตอนเดียวแบบเงียบๆ ที่มีจุดเด่นคือ มีกล้องมองหลัง และที่เหยียบด้านข้าง และยังขอขัดขา Honda HR-V ด้วย Nissan Juke Minor Change ที่ปรับแค่หน้ากับท้าย ส่วนภายในก็เพิ่มระบบนิดหน่อย ซึ่งก็ไม่ช่วยให้กิน Honda HR-V ที่สวยและเฉียบคมกว่าได้เลย
ส่วนค่าย Chevrolet ก็ขอกระตุ้นตลาดด้วยการปรับอุปกรณ์ให้กับ Trailblazer นิดหน่อยๆ และก็เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ให้ Colorado ทีเด็ดก็คือรุ่น High Country ที่ยกระดับความหรูหราเข้าไปอีก ฟาก Isuzu ก็ขอกระตุ้นตลาดด้วยเวอร์ชั่นพิเศษ MU-X The Limited ทางด้าน Mitsubishi ก็ได้ทำการปรับอุปกรณ์ให้กับ Attrage รวมทั้งเปิดตัวรถตู้หรู Delica Space Wagon ที่ตอนนี้ยังไม่เห็นมาวิ่งบนท้องถนนซักคันเลย
ฟาก Toyota ปีนี้เหมือนจะโด๊ปยามาเยอะ เพราะ เปิดตัวรถใหม่อย่างต่อเนื่องหลายรุ่น ตั้งแต่ Camry Minor Change ที่อัดออปชั่นกระหน่ำมาฆ่าพรรคพวกเดียวกัน ตามด้วยการมาของ Alphard และ Veilfire ใหม่เอาใจเศรษฐีกันเสียหน่อย และการประกาศความเทพของซีดานคันเก่งที่ไปวิ่งในสนามนูร์เบิร์กริงด้วยรุ่นพิเศษชื่อยาวเฟื้อย Corolla Altis Esport Nurburgring Edition และรุ่นตกแต่งเวอร์ชั่นที่ 2 อย่าง Vios TRD Sportivo II ส่วนไฮไลต์เด็ดของปีนี้ที่ขาดไม่ได้ก็คือ Hilux Revo ใหม่นั่นเองครับ
ส่วน Ford ก็มีการนำรถ Ranger Minor Change กับ Everest มาโชว์ขัดขาคู่แข่ง แต่ยังไม่เริ่มวางขายอย่างเป็นทางการ (แต่เปิดจองแล้วในรุ่น Everest ซึ่งก็ยอดจองถล่มทลาย โควตาถึงปีหน้าแล้ว) ก็ยังวิ่งอ่อยชาวบ้านไปทั่วจังหวัดระยองกันเลยทีเดียว ค่าย MG ก็ขอเปลี่ยนทัศนคติเดิมๆจากลูกค้าด้วยการเปิดตัว MG3 ใหม่ที่มากับราคายั่วยวนลูกค้า ได้ใจไปเต็มๆเลย
ส่วนทางฝั่งของรถหรูนั้น เริ่มที่ค่าย Mercedes-Benz ก่อนเลย ที่ขนทัพรถใหม่มาเปิดตัวในงาน Bangkok Motor Show ถึงหลายรุ่นด้วยกัน ตั้งแต่ GLE Coupe ,V-Class และ AMG GT S ส่วนทางค่าย BMW ไม่น้อยหน้าเอา BMW i3 กับ 2-Series Active Tourer มาโชว์ตัวด้วย หรือจะเป็นค่าย Audi ที่ขอมาท้าสาวกดาวกับใบพัดฟ้าขาวด้วย Audi TT ในราคาค่าตัว 3.99 ล้าน
และยังมีอีกหลายรุ่นมากมายที่เปิดตัว....
และเรามาเตรียมพบกับความมันและความสนุกครึ่งปีหลังของปี 2015 ที่คิดว่าก็ยังคงมีรถใหม่ๆรอให้เราได้สัมผัสกันอีกมากมายหลายรุ่นทีเดียว ซึ่งเราจะนำเสนอทั้งที่เปิดตัวในไทยและในต่างประเทศ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดอาจจะไม่ใช่ความจริง แต่เป็นการคาดการณ์จากความเป็นไปได้เท่านั้นครับ ฉะนั้นอย่ารีบเชื่อ รีบแชร์ และขอให้กรองข้อมูลก่อนเสมอ
ก่อนจะเริ่ม มีอะไรเตือนก่อนล่วงหน้าก่อนครับ ยี่ห้อไหนที่ผมไม่ได้กล่าวถึง แปลว่าอาจจะไม่มีการเปิดตัวรถในไทยช่วงครึ่งปีหลังนี้ หรืออาจยังทราบข่าวไม่แน่ชัดครับ
Audi
ที่มา Worldcarfans |
ที่มา Worldcarfans |
ส่วนเมืองไทย รถสปอร์ตอย่าง Audi R8 โฉมใหม่ รวมถึง Audi A7 Minor Change คงต้องรอการนำเข้าจากเกรย์มาร์เก็ตมากกว่า
Bentley
ที่มา Worldcarfans |
BMW
ค่าย BMW ตอนนี้ยังไม่มีข่าวการเปิดตัวรถใหม่ในไทย แต่ที่ผ่านมานี้ก็มีการเปิดตัวรถใหม่หลายรุ่น ตั้งแต่ 1-Series Minor Change , 3-Series Minor Change ตามด้วย BMW X1 และ BMW 7-Series โฉมใหม่ ซึ่งก็ต้องมาดูกันครับว่ารถพวกนี้จะเข้ามาในไทยเมื่อไหร่
เริ่มที่ BMW 1-Series Minor Change ที่หน้าตาของรถมีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือ ชุดโคมไฟหน้าใหม่ที่ออกแบบให้ดูเรียวกว่าเดิม พร้อมติดตั้ง DRL เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ถ้าคิดว่าไม่สวยได้ใจพอ ก็สามารถสั่งออปชั่นไฟหน้าแบบ Full LED ได้าพร้อมกับ Adaptive LED ที่สามารถปรับไฟสูงอัตโนมัติและไฟตัดหมอกหน้าที่ส่องเข้ามุมอัตโนมัติเมื่อ เลี้ยวโค้งได้ ไฟท้ายเปลี่ยนใหม่ยกชุดจากแนวตั้งกลายเป็นแนวนอนที่ดูดีขึ้นและสปอร์ตกว่า เดิม พร้อมล้ออัลลอยลายใหม่ โดยรวมถือว่าดูดีกว่าเดิมมากครับ การเปิดตัวคาดว่าน่าจะอีก 1-2 เดือนข้างหน้า หรืออย่างช้าปลายปีนี้ที่งาน Motor Expo ครับ
และอีกคันที่คาดว่าน่าจะเปลี่ยนแปลงก็คือ BMW 6-Series Minor Change ซึ่งได้เวลาปรับปรุงหน้าตากันใหม่แล้วในเมืองไทย ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้น่าจะได้เห็นกัน
Chevrolet
มาถึงที่ค่ายโบว์ไทน์สีทองอย่าง Chevrolet ที่ในปีนี้ ไม่ค่อยจะสร้างความตื่นเต้นให้กับเราเท่าไหร่ หลังจากที่ปรับปรุงอุปกรณ์ให้กับคู่หูอย่าง Chevrolet Colorado และ Chevrolet Trailblazer ซึ่งแน่นอนว่าสองคันนี้ไม่ได้มีการปรับปรุงหน้าครั้งใหญ่อะไรเลย แต่ Colorado ดีหน่อยที่จับรถมาเสริมชุดแต่งดูดีขึ้น แต่อันที่จริงแล้ว เชื่อว่าหลายคนอยากเห็นหน้าตาปรับปรุงใหม่ในสไตล์ Chevrolet Colorado โฉมอเมริกันที่หน้าหล่อๆ ก็รอดูกันว่า Chevrolet จะจัดให้เราเมื่อไหร่...
และในครึ่งหลังของปีนี้ จะมีอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่จะต้องจากเราไป นั่นคือ Chevrolet Sonic ที่จะยุติการผลิตในเดือนนี้ รวมถึง Chevrolet Spin ที่จะยุติการทำตลาดหลังจากปิดโรงงานในเบกาซี อินโดนีเซียด้วย แต่ในครึ่งปีหลังจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่มานำเสนอชาวไทยอย่างแน่นอนครับ
และที่พูดถึงก็คือ Chevrolet Cruze Minor Change (อีกแล้วเหรอเนี่ย) ซึ่งมีสมาชิกเพจ MZ Crazy Cars คุณ Chatchai Kongda สามารถจับภาพของ Chevrolet Cruze ที่น่าจะเป็นการ Minor Change ครั้งสุดท้าย หรือ Last Minor Change ซึ่งน่าจะพอประทังชีวิตของรถคันนี้และช่วยพยุงสถานการณ์ในค่ายให้ดีขึ้นบ้าง (หรือเปล่า?) จากภาพแอบถ่ายก็แสดงให้เห็นว่าหน้าตาของรถนั้นจะคล้ายคลึงกับ Chevrolet Cruze Minor Change เวอร์ชั่นที่ขายในอเมริกาในปัจจุบัน ซึ่งก็ออกแบบให้ดูเรียบหรูกว่าเดิม พร้อมกับกันชนหน้าและกรอบไฟตัดหมอกที่ดูทันสมัยขึ้น
ส่วนด้านท้ายของรถ เพื่อให้แตกต่างจากรุ่นปัจจุบันโดยสิ้นเชิง ก็ลงทุนยกบั้นท้ายจากตัว Cruze Classic ที่ขายในจีนมาใส่ในรถคันนี้ตามภาพที่ท่านเห็นตอนนี้เลยครับ ก็น่าจะทำให้ตัวรถดูดีขึ้นบ้าง
คาดว่าขุมพลังก็ยังคงเป็นขุมพลังเดิมไม่เปลี่ยน ส่วนการเปิดตัวนั้น รถทดสอบออกมาวิ่งขนาดนี้คาดว่าอีกไม่นานน่าจะได้เห็นกัน
นั่นก็แปลว่าโอกาสที่จะได้ใช้โฉมใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในตลาดโลก ก็ถอยลงไปอีกก้าว ซึ่งเราก็ยังไม่รู้ชะตากรรมเลยว่า Chevrolet จะเก็บ Cruze ไว้ในอนาคตหรือไม่?
อ้า...ในเมืองนอกยังมีอีกคัน Chevrolet Captiva ที่จะทำการ Minor Change (อีกแล้วหรอ) ซึ่งไม่รู้ว่ามันจะแซยิดอะไรกันหนักกันหนา ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันเนอะ ซึ่งมันก็น่าจะปรับหน้าตาให้สดใหม่กว่าเดิม ออปชั่นภายในอาจจะเพิ่มอะไรนิดหน่อย เครื่องก็ไม่น่าจะเปลี่ยนเพราะไม่จำเป็น ส่วนโฉมใหม่นะเหรอครับ คงกำลังง่วนกับการพัฒนาอยู่ละมั้ง การเปิดตัวมาแน่ปีนี้สำหรับตลาดเมืองนอก ส่วนไทยยังไม่ทราบกำหนดการครับ
Ford
มาถึงอีกค่ายที่ชอบเอารถออกมาวิ่งอวดสายตาชาวบ้าน หรือจะเรียกง่ายๆว่า "อ่อยไปทั่ว" นั่นเอง จากแต่เดิมที่เห็นหน้ากัน ก็จะบอกว่า "รถสวยมาก" ไปๆมาๆนานๆเข้าก็เปลี่ยนคำพูดเป็น "เมื่อไหร่จะขายซะที รอจนรากงอกแล้วโว้ย" ซึ่งมันก็เป็นธรรมดาของค่ายนี้อยู่แล้ว อาจจะขัดใจบางกลุ่ม แต่ไม่เป็นไร ติ่งรอได้ไม่มีปัญหาเนอะ
ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้ ค่าย Ford จะเริ่มเดินหน้าทำตลาดเต็มที่เลย โดยจะเริ่มส่งมอบ Ford Everestโฉมใหม่กันในเดือนสิงหาคม และเริ่มประเดิมการเปิดตัวกระบะคันเก่งของเขาในครึ่งปีหลังอย่าง Ford Ranger Minor Change ที่อ่อยชาวบ้านมาครึ่งปีแล้ว แต่บอกได้เลยว่าใครที่รอคอยการเปิดตัวของมัน คงจะไม่มีคำว่าผิดหวังแน่นอน เพราะหน้าตาที่ออกแบบใหม่ให้ดูโดดเด่น แข็งแกร่งและแฝงความหรูหรา น่าจะทำให้ใครหลายคนหลงรักมันในทันทีที่เห็นเลยละครับ ส่วนระบบอินโฟเทนเมนต์นั้น ทาง Ford ก็ได้เติมเต็มให้กับลูกค้าด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วตรงกลาง พร้อมระบบ SYNC2 รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ พอร์ต USB 2 พอร์ต, สล็อตเสียบ SD Card และช่อง AUX 3.5 และนอกจากนี้ระบบ SYNC 2 ยังรองรับการสั่งการด้วยเสียงได้เหมือนเดิม ซึ่งสามารถฟังคำสั่งง่ายๆได้
ด้านขุมพลังนั้นมีขุมพลังให้เลือก 4 แบบคือ เครื่องยนต์ดีเซล 3.2 ลิตร ติดตั้งระบบหมุนเวียนไอเสียแบบใหม่ ประหยัดเชื้อเพลิงขึ้น 18% กำลังสูงสุด 200 แรงม้า ตามด้วยเครื่องยนต์ดีเซล Duratorq แบบ 4 สูบ ความจุ 2.2 ลิตร แบ่งการจูนเป็น 2 ช่วงกำลังคือ 160 แรงม้า และ 125 แรงม้า ปิดท้ายด้วยรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน Duratec ความจุ 2.5 ลิตร กำลังสูงสุด 167 แรงม้า
ส่วนระบบความปลอดภัยเชื่อว่าจัดมาเต็มแน่นอน แต่จะมีอุปกรณ์เหล่านี้ครบหรือไม่ ลองอ่านเล่นๆกันไปก่อนครับ
ระบบช่วยเตือนการขับขี่ในช่องทาง Lane Keeping Alert
- ระบบรักษาช่องทางขับขี่ Lane Keeping Aid
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้า Adaptive Cruise Control
- ระบบเตือนป้องกันการชนรถคันหน้า Forward Alert
- สัญญาณเตือนระยะเดินหน้าและถอยหลัง Front and Rear Park Assist
- ระบบตรวจสอบวัดและแจ้งเตือนลมยาง Tire Pressure Monitoring System
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Electronic Stability Program พร้อมระบบป้องกันการพลิกคว่ำและลดอาการส่ายขณะลากจูงเทรลเลอร์
- ระบบตรวจสอบผู้ขับขี่ Driver Impairment Monitor
-ระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน Emergency Assistance
- ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน Hill Launch Assist
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา Hill Descent Control
- ระบบควบคุมการบรรทุก Adaptive Load Control
- ระบบเบรกฉุกเฉิน Emergency Brake Assistance
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
- Auto Strat/Stop
ทั้งหมดนี้ รอชมสเปกและราคาในเวอร์ชั่นไทย เดือนกรกฎาคมครับ
และยังมีอีกคันที่หลายคนรอคอยก็คือ Ford Focus Minor Change ที่ปัจจุบันยังคงเอารถมาวิ่งโชว์ชาวบ้านไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเปิดตัว ซึ่งแน่นอนว่า Ford Focus Minor Change จะมากับแนวการออกแบบหน้าตาที่เหมือน Aston Martin บางคนถึงกับบอกแบบตลกๆว่า เป็น Aston Martin ในราคาที่ไม่ถึงล้าน หรือบอกว่าเคยเห็นเจมส์ บอนด์ขับคันนี้ อะไรแบบนั้น ซึ่งดูจากตัวรถถือว่าสวยงามน่าใช้มากทีเดียว (ถ้าไม่นับเรื่องศูนย์) ซึ่งเครื่องยนต์นั้นมีข่าวออกมาว่า จะมีขุมพลัง 1.5 ลิตร EcoBoost ใหม่มาวางในรุ่นปรับโฉมครั้งนี้ ซึ่งเราก็มารอชมข้อมูลกันต่อไปครับ ส่วนการเปิดตัวนั้นยังไม่มีกำหนดการที่แน่นอน ซึ่งคาดว่าอย่างเร็วที่สุดที่เราน่าจะได้จับจองกันคือช่วงปลายปี 2015 หรืออาจจะเร็วหรือช้ากว่านั้น ขึ้นอยู่กับว่าจะเคลียร์ของเก่าหมดเมื่อไหร่
ปิดท้ายด้วย Ford EcoSport ที่มีข่าวว่าในปลายปีนี้อาจจะมีเวอร์ชั่นเครื่องยนต์ EcoBoost บล็อกเดียวกับ Fiesta มาวางขายในไทย ก็เป็นอีกคันที่น่าติดตาม
Honda
แม้ว่าค่าย Honda จะยัง "ไม่มี" แผนเปิดตัวรถใหม่ในไทยช่วงปีนี้ แต่อย่างไรก็ตามรถของพวกเขาก็ขายได้เรื่อยๆ และยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในตลาดโลกภายในปีนี้ ซึ่งมันก็เป็นรถที่สำคัญของตลาดเมืองไทยทั้งหมดเลยครับ
ที่มา Car and Driver |
เริ่มที่ Honda Accord Minor Change ก่อนเลย ที่ถูกแอบถ่ายในอเมริกาได้ ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก แน่นอนว่าหน้าตาของมันได้รับการออกแบบตามแนวทางจากรุ่นน้องนั่นคือ ใช้แนวการออกแบบ Exciting H Design!!! ที่ใช้กับ Honda รุ่นใหม่ๆหลายรุ่น มากับกระจังหน้าโครเมียมลากยาวไปทิ่มไฟหน้า ซึ่งโคมไฟหน้าก็ได้รับการออกแบบใหม่และมากับเทคโนโลยี LED ในโคม พร้อมออกแบบกันชนให้ดูสปอร์ตทันสมัยกว่าเดิม และออกแบบล้ออัลลอยลายใหม่ให้ดูสปอร์ตเร้าใจขึ้น ส่วนด้านท้ายก็ได้ปรับกันชนท้ายใหม่ และไฟท้าย LED ชุดใหม่ที่ดูสปอร์ตกว่าเดิม (มองแล้วนึกถึง Benz E-Class W212 ก่อน Minor Change) และติดตั้งสปอยเลอร์ท้าย โดยรวมนั้นดูดีขึ้นกว่าเดิมไม่น้อยเลย เครื่องยนต์คาดว่าคงไม่ปรุงแต่งอะไรเพราะดีอยู่แล้ว การเปิดตัวในอเมริกาเกิดขึ้นภายในงานใหญ่ซักงานในปีนี้แน่นอน ส่วนเมืองไทยนั้นกัดฟันรอต้นปี 2016 ได้เลยครับ
และอีกคันที่ควรจับตาก็คือ All-New Honda Civic ซึ่งก็กำลังวิ่งทดสอบอยู่ และก็มีภาพหลุดสิทธิบัตรมาให้เราได้เห็นรูปร่างหน้าตาบ้าง ตัวรถโดยรวมนั้นได้รับการออกแบบให้ดูสปอร์ตปราดเปรียวขึ้นกว่าเดิมด้วยการทำ หลังคาและบั้นท้ายให้ดูลาดลงกว่าเดิมในรุ่นซีดาน กระจังหน้าก็ได้รับการออกแบบตามสไตล์ Exciting H Design!!! ซึ่งแอบชวนให้นึกถึง Honda City เล็กน้อย ส่วนไฟท้ายนั้นก็ออกแบบคล้ายๆ Honda Jazz แล้วแต่งเติมเข้าไปนิดหน่อยให้ดูดีและล้ำกว่าเดิม นอกจากนี้ยังเพิ่มกระจกโอเปร่าเข้าไป ทำให้ Honda Civic ตัวนี้ดูเป็นซีดานคูเป้ขึ้นมาทันที สำหรับ ขุมพลังนั้นก็คาดการณ์ไว้ว่าจะมีเครื่องเบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ EarthDream ใหม่มาใส่ในตัวนี้ แต่ไทยจะได้ใช้หรือไม่ ก็ต้องรอดู และจะมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่าใครๆด้วย สำหรับการเปิดตัวนั้นจะเปิดตัวในตลาดอเมริกาช่วงปลายปีนี้ในรุ่น Sedan และ Coupe และตามด้วยตัว Hatchback ในปีหน้า ส่วนเมืองไทยก็มีสิทธิ์เปิดตัวในปี 2016 ครับ
ส่วน Honda HR-V Hybrid / Honda Jazz Hybrid / Honda City Hybrid จะเปิดตัวในปีหน้าเช่นกัน ซึ่งเราจะเจาะรายะเลียดให้ในบทความ "รวมรถใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2016" วันที่ 1 มกราคม 2559 ครับ
Isuzu
เป็นอีกค่ายที่น่าจับตามองมากในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ที่แน่นอนว่าไฮไลต์สำคัญ จะโฟกัสไปที่ Isuzu D-Max Minor Change และ Isuzu MU-X Minor Change นั่นเองครับ
รูปร่างหน้าตายังไม่มีใครรู้ใครเห็นว่าจะออกมาอย่างไร แต่ล้ออัลลอยของรถนั้น มีข้อมูลจากคนรู้จักผู้เขียนที่ทำงานใน Toyota เห็นลายล้อมาแล้วแต่ถ่ายรูปไว้ไม่ทัน แต่บอกแค่ว่า "ล้อสวยมาก" เอาเป็นว่าหน้าตาจะเป็นแบบไหนอย่างไรก็รอลุ้นกัน (และที่แน่ๆไม่ใช่กระบะคันสีแดงแปะโลโก้ Isuzu ที่คล้าย Colorado US ที่เข้าใจผิดกันด้วย)
สำหรับขุมพลังนั้นก็มีความเป็นไปได้มากที่จะ Downsizing ขนาดเครื่องยนต์ลงจากเดิม ที่ว่ากันว่าอาจจะมากับเครื่องยนต์ที่มีความจุราวๆ 1.9-2.0 ลิตรใหม่ และอาจจะมีเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตรทวินเทอร์โบแบบในตลาดยุโรปเข้ามาด้วย ว่ากันว่าขุมพลังของ 2.0 ลิตรใหม่ อาจจะเป็นขุมพลังสำหรับรุ่นบนๆก็เป็นได้ บ้างก็ว่าจะเป็นเครื่องตัวเล็กแทน 2.5 ลิตรเดิม เอาละ...จะเป็นอย่างไรก็ติดตามชมให้ดีแล้วกันครับ
คาดการณ์ว่าการเปิดตัว Isuzu D-Max Minor Change รวมถึง Isuzu MU-X Minor Change น่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ ราวๆเดือนกันยายน-ตุลาคม อันเป็นช่วงเวลาที่ Isuzu ชอบใช้เปิดตัวรถใหม่จากพวกเขา ฉะนั้นแล้ว จับตาดูให้ดีครับ
Jaguar
ข่าวความคืบหน้า Jaguar ยังไม่มีข่าวเกี่ยวกับรถในไทย แต่อย่างไรก็ตามในตลาดโลกนั้น ก็ให้รอชม Jaguar XJ Minor Change รถซาลูนรุ่นธงคันงามของค่าย ที่จะทำการปรับโฉมให้สดใหม่เพื่อต่อกรกับคู่แข่งอย่าง S-Class ใหม่ และ 7-Series ที่จะเปลี่ยนโฉมในปลายปีเช่นกัน ซึ่งจะมีการปรับปรุงกันชนหน้าให้ดูสปอร์ตกว่าเดิม ด้านเครื่องยนต์นั้นทราบว่าอาจจะมีการเพิ่มรุ่น Plug-In Hybrid ที่นำเอาเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบ มาผนวกกับมอเตอร์ไฟฟ้าจนได้พละกำลังราวๆ 334 แรงม้า การเปิดตัวจะมีขึ้นในช่วง Paris Motor Show 2015 ช่วงเดือนกันยายนครับ
ที่มา Auto Express |
ต้นแบบ Jaguar C-X16 |
และอีกคันที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือ รถ SUV คันแรกของค่าย ซึ่งมันจะมากับชื่อเสียงเรียงนามว่า Jaguar F-Pace ซึ่งมันจะได้รับแรงบันดาลใจจากต้นแบบ C-X17 ของค่ายแทบจะทั้งหมด ขุมพลังนั้นก็คาดว่าจะมีให้เลือกทั้งดีเซลและเบนซิน การเปิดตัวในตลาดโลก เจอกันช่วง Paris Motor Show 2015 ช่วงเดือนกันยายนครับ
แต่คาดว่ารถคันนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงครับว่าจะมาไทย อย่างเร็วก็ปลายปีนี้ นั่นคือ Jaguar XE รถซีดานหรูรุ่นใหม่คู่แข่งของ BMW 3-Series และ Mercedes-Benz C-Class ซึ่งถือว่าเป็นการกลับมาแข่งในตลาดกลุ่มนี้อีกครั้ง รูปร่างหน้าตาก็ยังคงมีเอกลักษณ์การออกแบบในสไตล์ค่ายนี้ ซึ่งถือว่าสวยสดงดงามพอควร เครื่องยนต์นั้นคาดว่าจะนำเข้าเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลขนาด 2.0 ลิตร เข้ามาทำตลาด และอาจจะเอารุ่น 3.0 V6 มาเป็นสีสันด้วย ซึ่งก็ต้องรอดูครับว่าจะมาเมื่อไหร่
Mazda
ค่ายผู้มีจิตวิญญาณแห่งความสปอร์ตอย่าง Mazda หลังจากเมื่อครึ่งปีแรกได้ทุ่มเทกับการเปิดตัวของน้องเล็กอย่าง Mazda 2 โฉมใหม่ จนหลายคนให้ความสนใจและประสบความสำเร็จกับยอดขาย แม้จะมีกระแสตำหนิไม่ว่าจะเป็นเรื่องไฟหน้าหรือราคาค่าตัวของมัน เชื่อเลยว่า ผู้บริโภคไม่สนใจเรื่องนี้และยอมจ่ายเงินเพื่อแลกกับรถดีๆเทคโนโลยีเพียบพร้อมสักคัน แบบนี้นับว่าคุ้มครับ
และในครึ่งปีหลังนี้ Mazda ก็ยังมีอีกหนึ่ง Product ที่หลายคนจับตามองและรอคอยการเปิดตัวของมัน นั่นคือ Mazda BT-50 Pro Minor Change นั่นเอง ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ก็มีภาพหลุดรถคันสีแดงจากที่ลับ และไม่ใช่ภาพที่ตัดต่อแน่นอน (เว้นแต่เอามาเบลอ Background เท่านั้นเอง) และก็เป็นไปตามคาดการณ์ไว้ว่ามันจะประยุกต์เส้นสายแบบ Kodo Design มาใส่ในรถกระบะ (ซึ่งหน้าตาก็มองแล้วแลดูคล้ายเจ้า Mazda 2 ใหม่เลย) แต่ดูท่าว่าจะเป็นการประยุกต์แบบนิดหน่อยๆ เพราะ ดูจากรูปเหมือนจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมากเลย เท่าที่เห็นนั้น ส่วนล้ออัลลอยคาดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนลายใหม่ให้ดูสวยงามกว่าเดิมด้วย ส่วนภาพภายในห้องโดยสารยังไม่มีรูปครับ แต่เป็นไปได้สูงว่าจะปรับเปลี่ยนห้องโดยสารใหม่ให้ดูดีกว่าเดิม แต่ประเด็นสำคัญคือ การนำระบบ Infotainment จากรถเก๋ง Mazda อย่าง MZD Connect มาติดตั้งให้กับรถกระบะคันเก่งของพวกเขาด้วย และไฟท้ายทรงใบไม้ที่หลายคนไม่ชอบจะเปลี่ยนหรือไม่ก็รอกันต่อไปครับ
สำหรับขุมพลังนั้น บอกได้เลยว่า เครื่องยนต์ยังเป็นขุมพลัง 2.2 ลิตรและ 3.2 ลิตรเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่จะมีการปรับเปลี่ยนเลขสมรรถนะหรือไม่ ก็ติดตามต่อไปครับ และ ใครที่คาดหวังว่า Mazda จะเอาเครื่องยนต์ SkyActiv มาใส่ในกระบะ บอกได้เลยว่า ไม่มีทางครับ ตราบใดที่ Mazda ยังทำกระบะร่วมกับ Ford อยู่
ส่วนการเปิดตัวนั้น จากปากของคนใน Mazda ยืนยันมาแล้วว่า ถ้าข้อมูลไม่ผิดพลาด เราอาจจะได้เจอตัว Mazda BT-50 Pro Minor Change ในเดือน "กรกฎาคม" นี้ และถ้ามีข่าวความคืบหน้าใหม่ๆ เราจะแจ้งให้ท่านทราบแน่นอนครับ
สำหรับขุมพลังของรถ คาดว่าในเวอร์ชั่นไทยจะได้ใช้ขุมพลังเบนซิน SkyActiv-G 1.5 ลิตร มากับพละกำลัง 131 แรงม้า พร้อมแรงบิด 150 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด เมืองไทยจะมีมาให้ทุกเกียร์หรือไม่ รอชมข้อมูลต่อไปครับ การเปิดตัวของ Mazda MX-5 โฉมใหม่ จับตาดูให้ดี ในช่วงครึ่งหลังของปีมาแน่ๆ แต่จะเมื่อไหร่ตอนไหนก็ติดตามต่อไปครับ
ปิดท้ายด้วยอีกคันที่คนไทยรอคอยการเปิดตัวของมันมากพอดู มันจะมาท้าไฝว้กับ Honda HR-V / Ford EcoSport และ Nissan Juke และที่กำลังกล่าวถึงก็คือเจ้า Mazda CX-3 โฉมใหม่นั่นเองครับ ที่ตอนนี้กำลังวิ่งทดสอบในเมืองไทยกันอยู่ หน้าตาของรถ มากับกระจังหน้าทรงห้าเหลี่ยม Signature Wing อันเป็นแนวการออกแบบดีไซน์แบบ Kodo Design ที่ทำให้รถดูพลิ้วไหว ไฟหน้ารถออกแบบให้ดูเหลี่ยมๆแต่สวยงาม ช่องกระจังหน้าเป็นแถบเส้นตรงคาดผ่าน กรอบไฟตัดหมอกดูโฉบเฉี่ยวพลิ้วไหว ต่อเนื่องไปถึงเส้นสายด้านข้างที่ดูสปอร์ต มีการเพิ่มโป่งรอบคันและยกสูงตัวรถเพื่อให้ดูเป็นรถเอสยูวีมากขึ้น
ภายในของรถยกมาจาก Mazda 2 ทั้งกระบิเลย เพียงแค่ตกแต่งให้ดูสปอร์ตมากกว่าเดิม มีการตกแต่งฐานเกียร์ใหม่เล็กน้อย และบริเวณแผงข้างประตูใหม่ รวมทั้งบริเวณคอนโซล โดยเพิ่มโทนสีแดงเข้ามาในบริเวณดังกล่าวเพื่อให้ดูสปอร์ตขึ้น ของเล่นแจ่มๆที่มีในรุ่นพี่และรุ่นน้องก็มาครบ ทั้งหน้าจอ Active Driving Display ระบบ MZD Connect รวมทั้งแพ็คเกจความปลอดภัย i-ACTIVSENSE
สำหรับขุมพลังนั้นคาดว่าเมืองไทยจะได้ใช้ขุมพลังดีเซล 1.5 ลิตรแบบเดียวกับ Mazda 2 และอาจจะมีขุมพลังเบนซิน 2.0 ลิตรจาก Mazda 3 มาร่วมแจมด้วย ส่วนการเปิดตัวในเมืองไทย เรามีสิทธิ์จะได้เจอมันแน่นอนในช่วงปลายปีนี้ ราวๆเดือนพฤศจิกายนครับ
Mercedes-benz
ข่าวรถใหม่ในไทยของ Mercedes-Benz ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาก็มีการเปิดตัวรถใหม่หลายรุ่นด้วยกัน ตั้งแต่ GLE-Class / V-Class / C-Class ประกอบในประเทศ / AMG GT S รวมทั้ง S-Class Coupe ในครึ่งปีหลังนี้ เรายังไม่แน่ใจว่าจะมีรุ่นไหนบ้างที่จะเปิดตัวในไทย เลยขอไปส่องในตลาดโลกกันก่อนครับ
ที่มา Carscoops |
รุ่นใหญ่อย่าง GL-Class ที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น GLS-Class ตามขนาดของมันเช่นกัน มีการปรับหน้าตาให้เข้ากับยุคใหม่ของค่าย ด้านเครื่องยนต์นั้นคาดว่าจะมีการปรับปรุงนิดหน่อย การเปิดตัวในตลาดโลกน่าจะไม่เกินปีนี้ครับ แต่ยังระบุเวลาชัดเจนไม่ได้
https://lh5.googleusercontent.com/-96PazCeDWHU/VPvNov-VerI/AAAAAAAAACo/7BvS-WFA780/w1000-h620-no/Mercedes-Benz-GLC-Spy-Shots3.jpg |
MG
ค่ายน้องใหม่แต่น่าจับตามองสุดๆ อย่างค่าย MG ที่คุมทีมโดย SAIC และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ CP ซึ่งตอนนี้กำลังกอบโกยความสำเร็จจาก MG3 สุดน่ารักอยู่ ด้วยอานิสงส์การตั้งราคาที่ถูกเพราะได้รับบทเรียนมาจากรุ่นพี่ MG6 แต่เชื่อว่า MG เมืองไทย ไม่หยุดแค่นั้นแน่ๆครับ
เพราะในปีนี้ยังมีรถใหม่อีกหลายรุ่นที่ต้องติดตามการเปิดตัวให้ดี...
ขอเริ่มที่ MG6 Minor Change ก่อนเลย ซึ่งน่าจะเป็นการแก้มือครั้งสำคัญ ทั้งปัญหาหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องระบบเกียร์ รวมทั้งราคาที่แพงไปหน่อย และอีกหลายประการด้วยกัน ซึ่งหน้าตาของ MG6 Minor Change ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ดูทันสมัยและเฉียบคมกว่าเดิม มากับกระจังหน้าชุดใหม่ที่ดุดันขึ้นสอดรับกับกันชนหน้ารถทรงใหม่ที่เน้นความ เฉียบคมกว่าเดิม ไฟหน้าออกแบบเนื้อไฟภายในโคมใหม่ และติดตั้งไฟวิ่งกลางวัน DRL บริเวณกันชนหน้า เพิ่มเส้นขอบโครเมียมบริเวณบานประตู ไฟท้ายชุดใหม่แบบ LED พร้อมออกแบบกันชนท้ายใหม่ให้สปอร์ตมากขึ้น ซึ่งผมหวังว่า MG จะนำปัญหาที่หลายคนเจอไปเรียนรู้และแก้ไข และคาดว่า MG จะทำให้รถคันนี้รองรับ E85 ได้ด้วย ตามน้องๆไป ส่วนราคา ผมเชื่อว่า MG ต้องทำให้ถูกลงแน่นอน ยังไงปลายปีนี้ติดตามชมกันครับ
และอีกคันก็คือ MG5 GT นั่นเองครับ ซึ่งมันจะมีขนาดก้ำกึ่งระหว่าง B-Segment และ C-Segment ซึ่งข้อมูลเครื่องยนต์นั้นในเวอร์ชั่นเมืองนอก จะติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 109 แรงม้า และอาจจะมีเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 129 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์คลัตช์คู่ 6 สปีด คาดว่าราคาคงไม่หนีจาก B-Segment มากนัก รอชมได้ปลายปีนี้ครับ
ส่วน MG GS ที่อยากจะกล่าวถึงเหมือนกัน ซึ่งมันเป็น SUV ที่เปิดตัวไม่นานเท่าไหร่ และก็เป็นอีกคันทีน่าจะมาไทย การเปิดตัวก็เจอกันปีหน้าครับ คลิกตามนี้เลยครับ ชมข้อมูล All-New MG GS รถอเนกประสงค์สุดหล่อก่อนวางขายในไทยช่วงปี 2016
MINI
มาดูค่าย MINI กันดีกว่า ซึ่งปีนี้คาดว่ารถอีกคันที่จะเปิดตัวก็คือ MINI Cooper Convertible ที่วิ่งทดสอบกันมาชาติกว่าๆแล้ว ซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจว่าเมื่อไหร่มันจะเปิดตัวในตลาดโลกกันเสียที จะวิ่งทดสอบกันไปไหนครับ ซึ่งหน้าตาไม่ต้องมโนกันมาก ก็ MINI ตัดหลังคาออกนั่นแหละครับ เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังต่างๆก็คงเหมือนกับตัวแฮตซแบ็ค การเปิดตัวหวังว่าจะไม่เกินปีนี้นะครับ มาเมื่อไหร่บอกด้วย
Mitsubishi
ค่ายทรีไดมอนด์ ก่อนหน้านี้ก็ลุยเต็มที่กับผลิตภัณฑ์ตัวสำคัญของพวกเขา อย่าง Mitsubishi Triton ใหม่ ที่ยังคงมาแนวปลัดขิกตามเดิม แต่เป็นปลัดขิกที่สวยโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม ยกเว้นกระจังหน้า และยังกระตุ้นตลาดด้วยการเผยโฉม Mitsubishi Attrage รุ่นปรับปรุงอุปกรณ์ พร้อมกันนี้ยังนำ Mitsubishi Delica Space Wagon เข้ามาขายเพื่อมาเจาะตลาดกลุ่มครอบครัว (ซึ่งตั้งแต่เปิดตัวมา ผมยังไม่เห็นมันวิ่งบนถนนซักคันเลย)
ในครึ่งหลังของปีนี้ ยังมีอีกผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและผู้คนจับตาการเปิดตัวของมันมากที่สุด นั่นก็คือ All-New Mitsubishi Pajero Sport นั่นเอง ที่มีรถวิ่งทดสอบในต่างประเทศให้เห็นเป็นระยะๆ และล่าสุด
จู่ๆ ก็มีเซตภาพจดสิทธิบัตรของ All-New Mitsubishi Pajero Sport หลุดออกมาแบบเต็มๆไม่มีกั๊ก เห็นมุมมองตั้งแต่หน้าจรดท้ายกันเลยทีเดียว ซึ่งทำให้เราพอคาดการณ์หน้าตาของเจ้าอเนกประสงค์คันเก่งจากค่ายสามเพชรได้แล้วครับ
และถ้าใครคิดว่า Triton หน้าแบบไหน Pajero Sport ก็แบบนั้นเลย คุณคิดผิดอย่างมหันต์ เพราะว่า Mitsubishi Triton กับ Pajero Sport จะถูกแยกภาพลักษณ์กันแบบชัดเจนไปเลย หน้าตาของมัน ดูได้ชัดว่า มันได้รับการถ่ายทอดแนวการออกแบบจาก Design Laguage ใหม่ของค่ายที่ใช้ชื่อว่า Dynamic Shield ซึ่งนำมันมาใส่ให้กับรถคันนี้ เหมือนกับที่ได้ใส่ให้กับ Mitsubishi Outlander Minor Change มาแล้วนั่นเอง โดยมันมากับไฟหน้าทรงโฉบเฉี่ยวพร้อมกระจังหน้าและกันชนหน้าที่ออกแบบให้ดู ล้ำสมัยและดูลงตัวกว่าเดิม ส่วนขุมพลังของรถก็คงไม่ต้องคาดเดาให้ยาก ก็ยกชุดมาจาก Triton เลย นั่นก็คือขุมพลังดีเซล 2.4 ลิตร Mivec ที่มากับพละกำลัง 181 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ส่วนเกียร์ธรรมดา 5 สปีดจะมีมาหรือไม่รอดูต่อไปครับ กำหนดการเปิดตัว...เจอกันในไทยที่แรกในโลก เดือนสิงหาคมนี้ครับ
Nissan
ค่าย Nissan ในครึ่งปีหลังของปีนี้อาจจะไม่มีรถใหม่เปิดตัวในไทย แต่คิดว่าอาจจะมีการเพิ่มรุ่นพิเศษหรือปรับอุปกรณ์ให้กับผลิตภัณฑ์ที่ขายอยู่ก็เป็นได้
http://autoguide.com.vsassets.com/blog/wp-content/gallery/2016-nissan-altima-spy-photos/2016-nissan-altima-spy-photos-02.jpg |
สำหรับขุมพลังนั้นยังไม่มีข้อมูล ซึ่งก็คาดว่าไม่น่าเปลี่ยนเครื่อง ส่วนระบบเกียร์ก็น่าจะยังคงใช้แบบ CVT ที่ปรับแต่งประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นไปอีก และกำหนดการเปิดตัว Nissan Teana / Altima Minor Change จะเปิดตัวในอเมริกาภายในช่วงปลายปีนี้ สำหรับเมืองไทยคาดว่าจะได้เจอกันภายในปี 2016 ครับ
ส่วนข่าวของ Nissan Navara PPV และ Nissan X-Trail Hybrid จะขอยกไปกล่าวอีกทีในบทความ "รวมรถใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2016" วันที่ 1 มกราคม 2559 ครับ
Suzuki
ค่ายรถเล็กอย่าง Suzuki ที่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ภายในงาน Bangkok Motor Show 2015 ก็ได้นำ Suzuki Ciaz รถซีดานอีโคคาร์คันใหม่ของพวกเขา ซึ่งมันจะเป็นอีโคคาร์ภายใต้โครงการ Eco Car Phase 1 คันสุดท้ายของโครงการนี้ครับ เหตุผลก็เพราะว่ามันจะวางขุมพลังเดียวกับ Suzuki Swift นั่นคือขุมพลังเบนซิน 1.25 ลิตร และส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ขอรับประกัน ว่ามันจะต้องเป็นอีโคคาร์ซีดานที่หรูหราที่สุดและใหญ่ที่สุด รวมทั้งสวยที่สุดในตลาดแน่นอน และตัวรถที่ดูดีมันอาจจะสามารถข่ม B-Segment บางเจ้าได้เลย
สำหรับออปชั่นของ Suzuki Ciaz ในรุ่นท็อป จะมากับออปชั่นเต็มๆแน่นอน ซึ่งประกอบไปด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ (ได้ข่าวว่าไฟหน้าโปรเจคเตอร์ทุกรุ่นด้วยนะ) ชุดแต่งรอบคัน หน้าจอสัมผัสพร้อมเนวิเกเตอร์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ภายในสีดำ และยังมาพร้อมกับเบาะหนัง ส่วนแอร์หลัง กับ Cruise Control ไม่มีครับ
และวันเปิดตัวของ Suzuki Ciaz ก็ยืนยันชัดเจนแล้วว่ามันจะเปิดตัวในวันที่ "8 กรกฎาคม 2558" ส่วนค่าตัวของ Suzuki Ciaz เคยมีการคาดการณ์ว่าจะอยู่ในช่วง 5.5 แสนบาท - 6.8 แสนบาท อาจจะมากหรือน้อยกว่านั้นก็ได้ ซึ่งก็ต้องรอดูตอนมันวางขายอีกทีครับ
Toyota
ค่าย Toyota ปีนี้รุกหนัก จัดเต็มการเปิดตัวรถใหม่หลายรุ่นด้วยกัน ไล่มาตั้งแต่ Toyota Camry Minor Change ใหม่ ตามด้วย Toyota Vios TRD Sportivo II และ Toyota Corolla Altis ESPORT Nurburgring Edition สุดแสนจะชื่อยาว และไฮไลต์เด็ดของปีก็ยังมี Hilux Revo เปิดตัวตามมาอีก เท่านั้นยังไม่พอ Toyota ยังส่ง Camry ESPORT มาเป็นทางเลือกเพิ่มเติมอีก
ในครึ่งหลังของปีนี้ ยังมีอีกไฮไลต์ที่น่าติดตาม ซึ่งภายในเดือนมิถุนายนนี้ ช่วงปลายเดือน ก็จะเริ่มการส่งมอบ Toyota Hilux Revo รุ่น Smart Cab กันเสียที หลังจากที่ส่งมอบตัว Double Cab และ Standard Cab ไปแล้ว ก็รอดูกันนะครับว่ามันจะขายดีแค่ไหน
แต่ไฮไลต์ที่น่าติดตามจริงๆก็คือ Toyota Fortuner ใหม่ ที่เราคาดหวังว่าจะเป็นตัวที่มาแก้มือให้กับ Hilux Revo ที่หลายคนผิดหวังทั้งหน้าตาและราคา ซึ่ง Toyota ได้นำเอาแนวการออกแบบของแบรนด์หรูในเครืออย่าง Lexus มาใส่กับ Fortuner โฉมใหม่ด้วย โดยกระจังหน้าชวนนึกถึง Lexus RX ตัวปัจจุบันที่กำลังจะตกรุ่นเร็วๆนี้ และไฟหน้าก็ได้รับอิทธิพลมาจาก Lexus NX พร้อมกันชนทรงสวย ซึ่งตัวรถนั้นดูหรูหราไฮโซกว่าเดิม จนแทบจะเหมือนกับรถเก๋งกันเลยทีเดียว ส่วนภาพเต็มคันและภายในห้องโดยสารยังไม่มี อย่างไรก็ตามก็ทำให้เรารู้ว่า Toyota ตั้งใจจะแยกภาพลักษณ์ของ Hilux และ Fortuner ให้แตกต่างกัน และจะพยายามยกระดับห้องโดยสารให้ต่างกันด้วย สำหรับขุมพลังก็ไม่ต้องเดา มันจะมากับเครื่อง 2.4 และ 2.8 ลิตร GD Engine และ 2.7 เบนซิน แบบเดียวกับ Hilux Revo การเปิดตัวนั้นก็เจอกันได้วันที่ "16 กรกฎาคม" ครับ
และอีกคันที่ขาดไม่ได้ก็คือ Toyota Innova ใหม่ ที่ต้องเปิดตัวตามมา เพื่อให้ครบสามหน่อโครงการ IMV2 ความโดดเด่นของรถคันนี้อยู่ที่กระจังหน้าขนาดใหญ่ที่ทำให้เราชวนนึกถึง Hyundai Veloster ครับ แต่จะมีไฟหน้าที่แหลมเรียวเพรียวกว่าเดิม ซึ่งเมื่อรวมกันน่าจะดูดีขึ้นตามสไตล์ Toyota ยุคใหม่ ในส่วนไฟท้ายนั้นจะอาจจะมากับแนวตั้งเหมือนเดิม แต่จะเปลี่ยนแนวใหม่ให้ทรงแหลมหัวทิ่มลงพื้น และอาจจะมีตำแหน่งไฟเบรก (หรือเปล่า) ยืนเป็นติ่งๆไปตรงกระโปรงท้าย และแน่นอนสิ่งที่ขาดไม่ได้ใน Toyota ยุคใหม่ ต้องมีหลัก Aerodynamics เข้ามาเกี่ยวข้อง ไฟหน้าที่ถูกพรางไว้ ตรงกระจกมองข้าง และไฟท้าย จะมีครีบเล็กๆซ่อนอยู่ อันเป็นจุดสำคัญใน Toyota ยุคใหม่ทุกรุ่นไปแล้ว และที่สำคัญเจ้าคันนี้มีครีบฉลามเท่ๆอยู่บนหัวของมันด้วย การเปิดตัวคาดว่าหลัง Fortuner น่าจะได้เจอกันครับ ภายใต้การนำเข้าของอินโดนีเซียตามเคย
และนอกจากนี้ก็น่าจะมี Toyota Yaris TRD Sportivo เวอร์ชั่น 2 ซึ่งปีนี้ก็จะครบ 2 ปีของการทำตลาด และครบ 1 ปีเวอร์ชั่น TRD ก็คาดว่าจะมากับชุดแต่งใหม่ ช่วงปลายปีนี้น่าจะได้เห็นครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
และทั้งหมดนี้ก็คือ รถรุ่นใหม่ๆที่คาดการณ์ว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2015 นี้ ซึ่งก็มีหลายรุ่นหลายคันทั้งที่จะเปิดตัวในไทย และก็เปิดตัวในเมืองนอก ก็เอามาให้ชมกันแบบครบๆ อาจจะขาดตกบกพร่องบางอย่างบ้าง และไม่มั่นใจในบางข้อมูล อันเนื่องจากรถรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวทั่วโลกมันมีหลายรุ่นหลายคัน เราก็ไม่สามารถรวบรวมมาทุกรุ่นทุกคันได้ ซึ่งผมก็พยายามจะเอามาให้มากที่สุดเท่าที่จะพอหาได้ และอีกอย่างที่ผมอยากจะย้ำเตือนและอยากจะบอกทุกท่านที่ได้อ่านบทความเรื่องนี้นะครับว่า ข่าวแต่ละข่าว ย่อมเปลี่ยนแปลงและแปรผันตามกาลเวลาได้เสมอ เรื่องบางเรื่องอาจจะพลิกผันจนเราไม่รู้ตัวก็ได้ แล้วเราไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ฉะนั้นข่าวบางข่าวก็ต้องใช้วิจารณญาณ ต้องกรอง และยังไม่รีบเชื่อ จนกว่าความจริงจะออกมา สิ่งที่สุดท้ายที่อยากจะฝากไว้ "จงเสพข่าวอย่างมีสติ"ครับ ขอบคุณครับ...
มาร่วมพูดคุยกันสนุกๆเรื่องรถยนต์ประดุจเพื่อนข้างกาย
พร้อมเกาะติดข่าวการเปิดตัวรถใหม่กันแบบฉับไว
พร้อมเกาะติดข่าวการเปิดตัวรถใหม่กันแบบฉับไว
กดไลค์แฟนเพจของ Cars New Update ด้านล่างได้เลยครับ!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย