เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา BMW AG ได้ทำการเปิดตัวรถเล็กรุ่นใหม่หมดจดอย่าง MINI Cooper ที่เดินทางเข้าสู่ยุคที่ 3 แล้วสำหรับรถ MINI ภายใต้ชายคาของ BMW
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ยังคงรักษาเอกลักษณ์ความเป็นมินิไว้ครบถ้วน รูปลักษณ์ยังคงคล้ายๆเดิม หน้าตารถนั้นเปลี่ยนใหม่หมดจด ยังคงเอกลักษณ์ไว้บ้าง หน้าตาได้รับอิทธิพลจาก MINI Rocketman Concept มากับไฟหน้าและไฟท้าย LED เส้นสายรถยังคงแบบเดิมไว้ทุกประการ แต่สังเกตดีๆ หน้ารถจะยาวขึ้น ส่วนช่วงบานกระจกด้านหลังถัดจากประตูจะดูสั้นลง โดยรวมตัวรถจะดูใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นเดิม โดยมีมิติตัวถังที่ มาพร้อมตัวถังที่ยาวกว่าเดิม 98 มม. (3,821 มม.) กว้างขึ้น 44 มม. (1,727 มม.) และสูงขึ้นอีก 7 มม. (1,414 มม.) ขณะที่ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,495 มม. ซึ่งยาวกว่าเดิม 42 มม. ส่งผลให้พื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขวางขึ้นและมีเนื้อที่บรรทุกสัมภาระ 211 ลิตร มากกว่าเดิม 51 ลิตร
ภายในนั้นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลยก็ได้ เพราะ MINI เลือกที่จะย้ายมาตรวัดความเร็วรถมาไว้ตรงกลางเหมือนรถปกติ ส่วนช่องทรงกลมตรงกลางจะแทนที่ด้วยระบบนำทางแทนโดยมากับระบบอินโฟเทนเมนท์ 8.8 นิ้ว พร้อมด้วยระบบช่วยขับขี่อีกมากมายครับ ช่องแอร์ตรงคอนโซลกลางก็เปลี่ยนจากทรงกลมเป็นทรงเหลี่ยม ดูแปลกตาไม่น้อย
ด้านขุมพลังนั้นเบื้องต้นมีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่
ในรุ่น Cooper D มากับเครื่องดีเซล 3 สูบ 1.5 ลิตร มากับพละกำลัง 116 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 270 นิวตันเมตร ที่1,750 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0 - 100 กม./ชม. ในเวลา 9.2 วินาที อัตราการปล่อยไอเสีย CO2 98 - 99 กรัม/กม. อัตราสิ้นเปลือง 28.5 กม./ลิตร
รุ่น Cooper มากับเครื่องเบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร มากับพละกำลัง 136 แรงม้า ที่ 4,500 - 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,250 - 4,000 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0 - 100 กม./ชม. ในเวลา 7.9 วินาที อัตราการปล่อยไอเสีย CO2 105-107 กรัม/กม. อัตราสิ้นเปลือง 22.1 กม./ลิตร
ปิดท้ายด้วยรุ่น Cooper S มากับเครื่องเบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร มากับพละกำลัง 192 แรงม้า ที่ 4,700 - 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,250 - 4,750 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0 - 100 กม./ชม. ในเวลา 6.7 วินาที อัตราการปล่อยไอเสีย CO2 122 - 125 กรัม/กม. อัตราสิ้นเปลือง 17.5 กม./ลิตร
ทุกรุ่นมากับเกียร์ธรรมดา 6 สปีดเป็นอุปกรณ์มาตรฐานและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดเป็นออปชั่นให้เลือก เครื่องยนต์ทุกเครื่องรองรับมาตรฐาน Euro6 และจะมีเวอร์ชั่นสปอร์ตที่จะใช้เกียร์ช่วงสั้นและติดตั้งแป้น paddle shift
นอกจากนี้ MINI Cooper โฉมใหม่จะมีออปชั่นช่วงล่างปรับได้ Variable Damper Control รองรับการขับขี่ 2 โหมดคือ Comfort และ Sport ล้ออัลลอยใช้ขนาด 15 นิ้วในรุ่น Cooper และ Cooper D ส่วนรุ่น Cooper S ใช้ขนาด 16 นิ้ว และสามารถเลือกเป็น 18 นิ้วได้หากต้องการ
สำหรับราคานั้นในรุ่น Cooper ราคา 15,300 ปอนด์ รุ่น Cooper D ราคา 16,450 ปอนด์ ปิดท้ายที่ 18,650 ปอนด์สำหรับ Cooper S การส่งมอบให้ลูกค้าจะเริ่มในช่วงกลางปีหน้าเป็นต้นไปครับ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแฟนเพจ Cars New Update ที่นี่ !!
และอีกหนึ่งแฟนเพจครับ New Cars Around The World Fan Page
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย