ในครานี้เราเลยขอจับคู่แข่งที่แม้ไม่ใช่สายตรง แต่ก็เป็นที่น่าจับตามองทั้งคู่ ก็คือ All-New Toyota Corolla Altis ปะทะกับ All-New Mazda 3 ใหม่ แน่นอนว่าทั้งสองคันมีทั้งสิ่งที่น่าสนใจและน่าจับตามองทั้งคู่ ฉะนั้นเรามาดูกันเลยว่าใครจะแน่กว่าใครครับ มาชมกันได้เลย
รูปร่างหน้าตา
เริ่มกันที่หน้าตาก่อนเลยครับ ทั้งสองคันนี้มันมาคนละแนวเลยทีเดียวครับ ฟาก Toyota ได้ออกแบบ Corolla Altis โฉมใหม่ให้หรูหรากว่าเดิมและยังแฝงความสปอร์ตเข้ามาด้วย ด้วยหน้าตาที่ออกแบบมาแนว Keen Look เหมือนรุ่นน้อง Vios และ Yaris แต่ยังไง Altis ก็มีรัศมีที่หรูหรา ยอมรับว่ามันหล่อกว่าเดิมมากครับ ยิ่ง ESport เนี่ย โคตรหล่อ ตอนนี้ไปไหนมาไหนก็เห็นเต็มไปหมดเลยเจ้าเอสสปอร์ต
ส่วน Mazda 3 ไม่ต้องพูดถึง มันโคตรหล่อและหน้าตาดูดีมีราศีกว่าเดิมมากๆ จากโฉมเก่าที่เหมือนแป๊ะยิ้ม มาคราวนี้หน้าดุกว่าเดิม และเส้นสายที่โค้งมนและสปอร์ตรอบคัน ทำให้เจ้า Mazda 3 ใหม่ดูเร้าใจไม่น้อย ยิ่งสวมล้อขอบ 18 นิ้วที่เป็นมาตรฐานในรุ่นท็อปยิ่งเสริมบารมี ไม่แปลกที่ใครๆก็ชอบมัน เพราะความหล่อและหรูเทียบชั้นรถยุโรปราคาแพงได้สบายๆ
หากพูดถึงภายในของทั้งสองคันนี้ ตรงๆกับมันสวนทางกับภายนอกเลย เพราะภายนอกที่ดูหรูและสปอร์ตของทั้งสองรุ่น ภายในนั้นกลับมาแบบเชยๆเรียบง่าย สไตล์อนุรักษ์นิยม โดยเฉพาะ Altis เนี่ยหนักเลย แต่ขึ้นชื่อว่าอะไรเชยๆ มองแล้วไม่เบื่อ มองได้นาน ซึ่งมันก็จริงครับ ส่วนที่ไฮเทคของ Mazda 3 เห็นจะอยุ่ที่หน้าปัดรถ ส่วน Altis ก็หน้าปัดสวยไม่แพ้กัน
ฟังก์ชัน
มาดูด้านฟังก์ชันภายในกันบ้างดีกว่า ขอบอกเลยว่าในรุ่นท็อปนั้น ทั้งสองค่ายต่างให้มาแบบเต็มๆไม่มีกั๊กแม้แต่น้อย Mazda จะได้เปรียบกว่าตรงที่หน้าจอของมันมีระบบ MZD Connect สามารถเล่น เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต จะพิมพ์ จะส่งข้อความอะไรทำได้หมด แต่ต้องมาตกม้าตายตรงที่การไม่มีระบบ Cruise Control อันเป็นระบบที่รถ C-Segment ระดับนี้ ในรุ่นท็อป ต้องมีกันทุกรุ่น ซึ่ง Toyota เองก็ติดมาให้ด้วย เอาละเพื่อไม่ให้เสียเวลา มาดูการเทียบเป็นตารางในรุ่นท็อปของทั้งสองเลยดีกว่า
ฟังก์ชัน
|
Toyota Corolla Altis 1.8V Navi
|
Mazda 3 2.0 SP Sport
|
หน้าจอ Active Driving Display
|
-
|
มี
|
พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง
|
มี
|
มี
|
ระบบปรับอากาศ
|
อัตโนมัติ
|
อัตโนมัติ
|
ไล่ฝ้ากระจกหลัง
|
มี
|
มี
|
เบาะนั่งคนขับปรับระดับ 6 ทิศทาง
|
ปรับระดับ
8 ทิศทาง พร้อมระบบปรับดันหลังด้านคนขับ
|
มี
|
เบาะนั่งหลังปรับพับ 60/40
|
มี
|
มี
|
หน้าต่างไฟฟ้า พร้อมระบบ Jam-Projection ด้านคนขับ
|
มี
|
มี
|
ระบบเครื่องเสียง
|
เครื่องเล่น
DVD/CD/MP3/WMA
จอสัมผัส 6.1 นิ้ว รองรับ Smart G-Book
|
เครื่องเล่น
CD/DVD/MP3
จอสัมผัส 7 นิ้วพร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ
|
ลำโพง
|
6
ตัว
|
6
ตัว
|
Bluetooth
|
มี
|
มี
|
ช่องเชื่อมต่อ USB/AUX
|
มี
|
มี
|
ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ
|
มี
|
มี
|
ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ
|
มี
|
มี
|
ระบบจดจำเสียง
|
-
|
มี
|
เซ็นทรัลล็อก
|
มี
|
มี
|
ม่านบังแดดหลัง
|
มี
|
มี
|
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
|
มี
|
-
|
กุญแจรีโมท
|
มี
|
มี
|
กระจกมองหลังแบบปรับลดสะท้อนแสงอัตโนมัติ
|
มี
|
มี
|
Paddle
Shift
|
มี
|
มี
|
เครื่องยนต์
มาดูที่เครื่องยนต์เลยดีกว่า ด้าน Toyota Corolla Altis ใหม่ มากับขุมพลัง 2 แบบ ซึ่งได้ทำการตัดรุ่น 2.0 ที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้เหลือ 2 เครื่องยนต์นั่นเอง โดยยังเป็นขุมพลังเดิมจากตัวที่แล้วในรุ่น Minor Change ซึ่งมีอายุเครื่อง 3 ปีเท่านั้น เลยยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร Dual VVT-i มากับพละกำลัง 122 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 154 นิวตัน-เมตรที่ 5,200 รอบ/นาที และเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร Dual VVT-i มากับพละกำลัง 141 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบนาที เครื่องตัวนี้รับ E85 ได้และมีหลายสื่อที่ทดสอบมาแล้วว่า ความแรงไม่แพ้รุ่น 2.0 เลย อัตราเร่งก็ทำได้ค่อนข้างดี ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด เปลี่ยนเกียร์ทันใจไร้สะดุด นุ่มนวล อัตราเร่งดี ประหยัดน้ำมัน
ส่วนเครื่องยนต์ของ Mazda นั้น มีเครื่องยนต์ตัวเดียวในตลาดคือเครื่อง SkyAciv- G ขนาดความจุ 2.0 ลิตรตัวเดียวกับที่บรรจุใน CX-5 มากับพละกำลัง 165 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ SKYACTIV-DRIVE อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมแมนนวลโหมด Activematic และที่สำคัญเครื่องยนต์ตัวนี้ยังสามารถรองรับพลังงานทางเลือกอย่างน้ำมัน E85 ได้ด้วย เครื่องตัวนี้ Mazda ยังเคลมว่าประหยัดว่าเครื่อง 1.6 ลิตร (เทียบกับเครื่อง MZR 1.6 ลิตร) แน่นอนเครื่อง 2.0 ลิตร เร่งแซงทันใจ อัตราเร่งเฉียบคม ดีกว่าเครื่อง 1.8 ลิตรอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ
ระบบความปลอดภัย
ในด้านระบบความปลอดภัย ขอพูดถึงค่าย Mazda เพราะมีจุดขายและลูกเล่นใหม่ๆมาให้เราได้ใช้ ด้วยระบบ i-Activesense ที่ประกอบไปด้วย ระบบช่วยหยุดรถอัจฉริยะ SCBS และ ระบบเตือนเมื่อเมื่อมีรถอยู่ในจุดที่สายตามองไม่เห็น RVM และยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่มากมายก่ายกองจน Altis เงิบได้ และ Mazda ก็ตกม้าตายด้วยการไม่ติดกล้องมองหลังแล้ว บางคนบอกหาติดเองได้...ใช่ครับ หาได้ แต่หากลองดู C-Segment คันอื่นๆในตลาด รุ่นที่มีจอเนี่ย ส่วนใหญ่เค้าก็ให้กล้องมาแทบจะทุกคัน ยกเว้น Focus ที่จอกระจ๋อยเดียว แต่ก็ไม่เป็นไร ไม่ว่ากัน
ระบบความปลอดภัย
|
Toyota
Corolla Altis 1.8V Navi
|
Mazda
3 2.0 SP Sport
|
ระบบควบคุมการทรงตัว
|
มี
|
มี
|
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
|
มี
|
มี
|
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
|
มี
|
มี
|
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
|
มี
|
มี
|
ระบบเสริมแรงเบรก BA
|
มี
|
มี
|
ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า SRS
|
มี
|
มี
|
ถุงลมด้านข้าง
|
-
|
มี
|
ม่านถุงลมด้านข้าง
|
-
|
มี
|
เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ
|
มี
|
มี
|
ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
|
มี
|
มี
|
ไฟหน้าปรับระดับอัตโนมัติ
|
มี
|
มี
|
ระบบช่วยหยุดรถอัจฉริยะ
SCBS
|
-
|
มี
|
ระบบเตือนเมื่อเมื่อมีรถอยู่ในจุดที่สายตามองไม่เห็น
RVM
|
-
|
มี
|
สัญญาณไฟเตือนอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน
ESS
ระบบควบคุมเกียร์
AAS
|
-
|
มี
|
จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ
ISOFIX
|
-
|
มี
|
กล้องมองหลัง
|
มี
|
-
|
กุญแจนิรภัย
|
มี
|
มี
|
ระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม
|
มี
|
มี
|
ราคา
มาดูที่ค่าตัวของรถกันบ้าง ด้าน Toyota นั้นมีทางเลือกให้ 8 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ รุ่น 1.6 J M/T ราคา 769,000 บาท,รุ่น 1.6 J CNG M/T ราคา 819,000 บาท,รุ่น 1.6 E CNG A/T ราคา 889,000 บาท,รุ่น 1.6 G A/T ราคา 829,000 บาท,รุ่น 1.8 E ราคา 839,000 บาท,รุ่น 1.8 ESport ราคา 899,000 บาท,รุ่น 1.8 G ราคา 979,000 บาท และ รุ่น 1.8 V ราคา 1,069,000 บาท
ส่วน Mazda ก็มีให้เลือก 7 รุ่นย่อยครับ ได้แก่ มีให้เลือกทั้งหมด 7 รุ่นย่อยด้วยกัน มีราคาดังนี้ครับ
Mazda 3 E Sedan ราคา 833,000 บาท,Mazda 3 C Sedan ราคา 914,000 บาท,Mazda 3 S Sedan ราคา 974,000 บาท,Mazda 3 E Sports ราคา 833,000 บาท,Mazda 3 C Sports ราคา 914,000 บาท,Mazda 3 S Sports ราคา 974,000 บาท และ Mazda 3 SP Sports ราคา 1,094,000 บาท
สรุปผล
การเชือดเฉือนด้านออปชั่นและระบบความปลอดภัยถือว่าเป็นความสนุกมากจริงๆครับ หลังจากที่ทุกท่านอ่านกันมาจนถึงตอนจบของบทความชิ้นนี้ แน่นอนว่าทั้งสองคันนี้มันมีดีทั้งคู่จริงๆ หากพูดถึงเรื่องศูนย์บริการ และอะไหล่ งานนี้ต้องยกให้ Toyota เค้าจริงๆ มีแพร่หลายทั่วเลย ทำให้หลายคนรวมถึงอู่แท็กซี่ ซื้อรถคันนี้ไปรับงาน Taxi ซะเลยจนบางคนหมั่นไส้ ส่วน Mazda ศูนย์บริการอาจยังสู้ไม่ได้ แต่เดี๋ยวนี้ ศูนย์ Mazda ก็เริ่มมีมากขึ้น และด้วยหน้าตาที่ดีทำให้มีคนซื้อมันมากมาย และในปัจจุบันยังมี Back Order ค้างเพียบ ผู้เขียนแอบคิดในใจเหมือนกันทำไมหลายคนชอบกันจัง เจ้า Mazda 3 เนี่ย ถ้าเป็นเรื่องหน้าตา ผู้เขียนคงให้ Mazda 3 ครับ(ในใจก็อยากให้เสมอกันเพราะชอบทั้งคู่) แต่ถ้าดูองค์ประกอบโดยรวมละก็เสมอกันครับ สรุปก็คือ เสมอกันครับ
เกณฑ์การให้คะแนน
|
Toyota
Corolla Altis
|
Mazda
3
|
รูปร่างหน้าตา
5
|
4
|
4.5
|
ฟังก์ชัน 5
|
4
|
4
|
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
5
|
4
|
4
|
ระบบความปลอดภัย
5
|
4
|
4.5
|
ราคา 5
|
4
|
4
|
ศูนย์บริการ
5
|
5
|
4
|
รวม 30
|
25
|
25
|
แนะนำ ติชม พูดคุย ติดตามข่าวสารรถใหม่ฉับไวก่อนใครกับ Cars New Update ที่นี่!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย