วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เปรียบเทียบมวยคู่เดือด ตอนที่ 19 : Toyota Corolla Altis VS. Mazda 3

  ตลาด C-Segment ปีนี้ถือเป็นตลาดที่เชือดเฉือนเดือดและเป็นตลาดที่มีการแข่งขันอย่างเมามันในปีนี้ ด้าน Toyota ก็เปิดเกมกันตั้งแต่ต้นปีด้วยซีดานขวัญใจมหาชน All-New Toyota Corolla Altis และด้วยรูปโฉมของ ESport ที่เร้าใจเหลือเกิน Honda จึงรีบกระตุ้นตลาด 1.8 ลิตรโดยด่วนด้วย Honda Civic 2014 แต่ก็มิอาจสกัดได้ ซ้ำร้ายยังโดน All-New Mazda 3 สุดหล่อที่หลายคนรอคอยกันมากมาย มาตามบู๊ล้างผลาญจน Honda เงิบไปเลย และก็มีการไปจิกกัด Toyota แต่ก็คงยากเพราะค่ายนี้มันเก๋าและรุ่นใหญ่จริง 555+

    ในครานี้เราเลยขอจับคู่แข่งที่แม้ไม่ใช่สายตรง แต่ก็เป็นที่น่าจับตามองทั้งคู่ ก็คือ All-New Toyota Corolla Altis ปะทะกับ All-New Mazda 3 ใหม่ แน่นอนว่าทั้งสองคันมีทั้งสิ่งที่น่าสนใจและน่าจับตามองทั้งคู่ ฉะนั้นเรามาดูกันเลยว่าใครจะแน่กว่าใครครับ มาชมกันได้เลย

รูปร่างหน้าตา
   เริ่มกันที่หน้าตาก่อนเลยครับ ทั้งสองคันนี้มันมาคนละแนวเลยทีเดียวครับ ฟาก Toyota ได้ออกแบบ Corolla Altis โฉมใหม่ให้หรูหรากว่าเดิมและยังแฝงความสปอร์ตเข้ามาด้วย ด้วยหน้าตาที่ออกแบบมาแนว Keen Look เหมือนรุ่นน้อง Vios และ Yaris แต่ยังไง Altis ก็มีรัศมีที่หรูหรา ยอมรับว่ามันหล่อกว่าเดิมมากครับ ยิ่ง ESport เนี่ย โคตรหล่อ ตอนนี้ไปไหนมาไหนก็เห็นเต็มไปหมดเลยเจ้าเอสสปอร์ต


      ส่วน Mazda 3 ไม่ต้องพูดถึง มันโคตรหล่อและหน้าตาดูดีมีราศีกว่าเดิมมากๆ จากโฉมเก่าที่เหมือนแป๊ะยิ้ม มาคราวนี้หน้าดุกว่าเดิม และเส้นสายที่โค้งมนและสปอร์ตรอบคัน ทำให้เจ้า Mazda 3 ใหม่ดูเร้าใจไม่น้อย ยิ่งสวมล้อขอบ 18 นิ้วที่เป็นมาตรฐานในรุ่นท็อปยิ่งเสริมบารมี ไม่แปลกที่ใครๆก็ชอบมัน เพราะความหล่อและหรูเทียบชั้นรถยุโรปราคาแพงได้สบายๆ
  
   หากพูดถึงภายในของทั้งสองคันนี้ ตรงๆกับมันสวนทางกับภายนอกเลย เพราะภายนอกที่ดูหรูและสปอร์ตของทั้งสองรุ่น ภายในนั้นกลับมาแบบเชยๆเรียบง่าย สไตล์อนุรักษ์นิยม โดยเฉพาะ Altis เนี่ยหนักเลย แต่ขึ้นชื่อว่าอะไรเชยๆ มองแล้วไม่เบื่อ มองได้นาน ซึ่งมันก็จริงครับ ส่วนที่ไฮเทคของ Mazda 3 เห็นจะอยุ่ที่หน้าปัดรถ ส่วน Altis ก็หน้าปัดสวยไม่แพ้กัน

ฟังก์ชัน
    มาดูด้านฟังก์ชันภายในกันบ้างดีกว่า ขอบอกเลยว่าในรุ่นท็อปนั้น ทั้งสองค่ายต่างให้มาแบบเต็มๆไม่มีกั๊กแม้แต่น้อย Mazda จะได้เปรียบกว่าตรงที่หน้าจอของมันมีระบบ MZD Connect สามารถเล่น เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต จะพิมพ์ จะส่งข้อความอะไรทำได้หมด แต่ต้องมาตกม้าตายตรงที่การไม่มีระบบ Cruise Control อันเป็นระบบที่รถ C-Segment ระดับนี้ ในรุ่นท็อป ต้องมีกันทุกรุ่น ซึ่ง Toyota เองก็ติดมาให้ด้วย เอาละเพื่อไม่ให้เสียเวลา มาดูการเทียบเป็นตารางในรุ่นท็อปของทั้งสองเลยดีกว่า
ฟังก์ชัน
Toyota Corolla Altis 1.8V Navi
Mazda 3 2.0 SP Sport
หน้าจอ Active Driving Display
-
มี
พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง
มี
มี
ระบบปรับอากาศ
อัตโนมัติ
อัตโนมัติ
ไล่ฝ้ากระจกหลัง
มี
มี
เบาะนั่งคนขับปรับระดับ 6 ทิศทาง
ปรับระดับ 8 ทิศทาง พร้อมระบบปรับดันหลังด้านคนขับ
มี
เบาะนั่งหลังปรับพับ 60/40
มี
มี
หน้าต่างไฟฟ้า พร้อมระบบ Jam-Projection ด้านคนขับ
มี
มี
ระบบเครื่องเสียง
เครื่องเล่น DVD/CD/MP3/WMA จอสัมผัส 6.1 นิ้ว รองรับ Smart G-Book
เครื่องเล่น CD/DVD/MP3 จอสัมผัส 7 นิ้วพร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ
ลำโพง
6 ตัว
6 ตัว
Bluetooth
มี
มี
ช่องเชื่อมต่อ USB/AUX
มี
มี
ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ
มี
มี
ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ
มี
มี
ระบบจดจำเสียง
-
มี
เซ็นทรัลล็อก
มี
มี
ม่านบังแดดหลัง
มี
มี
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
มี
-
กุญแจรีโมท
มี
มี
กระจกมองหลังแบบปรับลดสะท้อนแสงอัตโนมัติ
มี
มี
Paddle Shift
 มี
มี
 
เครื่องยนต์
    มาดูที่เครื่องยนต์เลยดีกว่า ด้าน Toyota Corolla Altis ใหม่ มากับขุมพลัง 2 แบบ ซึ่งได้ทำการตัดรุ่น 2.0 ที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้เหลือ 2 เครื่องยนต์นั่นเอง โดยยังเป็นขุมพลังเดิมจากตัวที่แล้วในรุ่น Minor Change ซึ่งมีอายุเครื่อง 3 ปีเท่านั้น เลยยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร Dual VVT-i มากับพละกำลัง 122 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 154 นิวตัน-เมตรที่ 5,200 รอบ/นาที และเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร Dual VVT-i มากับพละกำลัง 141 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบนาที เครื่องตัวนี้รับ E85 ได้และมีหลายสื่อที่ทดสอบมาแล้วว่า ความแรงไม่แพ้รุ่น 2.0 เลย อัตราเร่งก็ทำได้ค่อนข้างดี ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด เปลี่ยนเกียร์ทันใจไร้สะดุด นุ่มนวล อัตราเร่งดี ประหยัดน้ำมัน


   ส่วนเครื่องยนต์ของ Mazda นั้น มีเครื่องยนต์ตัวเดียวในตลาดคือเครื่อง SkyAciv- G ขนาดความจุ 2.0 ลิตรตัวเดียวกับที่บรรจุใน CX-5 มากับพละกำลัง 165 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ SKYACTIV-DRIVE อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมแมนนวลโหมด Activematic และที่สำคัญเครื่องยนต์ตัวนี้ยังสามารถรองรับพลังงานทางเลือกอย่างน้ำมัน E85 ได้ด้วย เครื่องตัวนี้ Mazda ยังเคลมว่าประหยัดว่าเครื่อง 1.6 ลิตร (เทียบกับเครื่อง MZR 1.6 ลิตร) แน่นอนเครื่อง 2.0 ลิตร เร่งแซงทันใจ อัตราเร่งเฉียบคม ดีกว่าเครื่อง 1.8 ลิตรอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ

ระบบความปลอดภัย
   ในด้านระบบความปลอดภัย ขอพูดถึงค่าย Mazda เพราะมีจุดขายและลูกเล่นใหม่ๆมาให้เราได้ใช้ ด้วยระบบ i-Activesense ที่ประกอบไปด้วย ระบบช่วยหยุดรถอัจฉริยะ SCBS และ ระบบเตือนเมื่อเมื่อมีรถอยู่ในจุดที่สายตามองไม่เห็น RVM และยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่มากมายก่ายกองจน Altis เงิบได้ และ Mazda ก็ตกม้าตายด้วยการไม่ติดกล้องมองหลังแล้ว บางคนบอกหาติดเองได้...ใช่ครับ หาได้ แต่หากลองดู C-Segment คันอื่นๆในตลาด รุ่นที่มีจอเนี่ย ส่วนใหญ่เค้าก็ให้กล้องมาแทบจะทุกคัน ยกเว้น Focus ที่จอกระจ๋อยเดียว แต่ก็ไม่เป็นไร ไม่ว่ากัน
ระบบความปลอดภัย
Toyota Corolla Altis 1.8V Navi
Mazda 3 2.0 SP Sport
ระบบควบคุมการทรงตัว
มี
มี
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
มี
มี
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
มี
มี
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
มี
มี
ระบบเสริมแรงเบรก BA
มี
มี
ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า SRS
มี
มี
ถุงลมด้านข้าง
-
มี
ม่านถุงลมด้านข้าง
-
มี
เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ
มี
มี
ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
มี
มี
ไฟหน้าปรับระดับอัตโนมัติ
มี
มี
ระบบช่วยหยุดรถอัจฉริยะ SCBS
-
มี
ระบบเตือนเมื่อเมื่อมีรถอยู่ในจุดที่สายตามองไม่เห็น RVM
-
มี
สัญญาณไฟเตือนอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ESS
ระบบควบคุมเกียร์ AAS
-
มี
จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
-
มี
กล้องมองหลัง
มี
-
กุญแจนิรภัย
มี
มี
ระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม
มี
มี
 

ราคา
   มาดูที่ค่าตัวของรถกันบ้าง ด้าน Toyota นั้นมีทางเลือกให้ 8 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ รุ่น 1.6 J M/T ราคา 769,000 บาท,รุ่น 1.6 J CNG M/T ราคา 819,000 บาท,รุ่น 1.6 E CNG A/T ราคา 889,000 บาท,รุ่น 1.6 G A/T ราคา 829,000 บาท,รุ่น 1.8 E ราคา 839,000 บาท,รุ่น 1.8 ESport ราคา 899,000 บาท,รุ่น 1.8 G ราคา 979,000 บาท และ รุ่น 1.8 V ราคา 1,069,000 บาท

   ส่วน Mazda ก็มีให้เลือก 7 รุ่นย่อยครับ ได้แก่ มีให้เลือกทั้งหมด 7 รุ่นย่อยด้วยกัน มีราคาดังนี้ครับ
Mazda 3 E Sedan ราคา 833,000 บาท,Mazda 3 C Sedan ราคา 914,000 บาท,Mazda 3 S Sedan ราคา 974,000 บาท,Mazda 3 E Sports ราคา 833,000 บาท,Mazda 3 C Sports ราคา 914,000 บาท,Mazda 3 S Sports ราคา 974,000 บาท และ Mazda 3 SP Sports ราคา 1,094,000 บาท 


สรุปผล
   การเชือดเฉือนด้านออปชั่นและระบบความปลอดภัยถือว่าเป็นความสนุกมากจริงๆครับ หลังจากที่ทุกท่านอ่านกันมาจนถึงตอนจบของบทความชิ้นนี้ แน่นอนว่าทั้งสองคันนี้มันมีดีทั้งคู่จริงๆ หากพูดถึงเรื่องศูนย์บริการ และอะไหล่ งานนี้ต้องยกให้ Toyota เค้าจริงๆ มีแพร่หลายทั่วเลย ทำให้หลายคนรวมถึงอู่แท็กซี่ ซื้อรถคันนี้ไปรับงาน Taxi ซะเลยจนบางคนหมั่นไส้ ส่วน Mazda ศูนย์บริการอาจยังสู้ไม่ได้ แต่เดี๋ยวนี้ ศูนย์ Mazda ก็เริ่มมีมากขึ้น และด้วยหน้าตาที่ดีทำให้มีคนซื้อมันมากมาย และในปัจจุบันยังมี Back Order ค้างเพียบ ผู้เขียนแอบคิดในใจเหมือนกันทำไมหลายคนชอบกันจัง เจ้า Mazda 3 เนี่ย ถ้าเป็นเรื่องหน้าตา ผู้เขียนคงให้ Mazda 3 ครับ(ในใจก็อยากให้เสมอกันเพราะชอบทั้งคู่) แต่ถ้าดูองค์ประกอบโดยรวมละก็เสมอกันครับ สรุปก็คือ เสมอกันครับ


เกณฑ์การให้คะแนน
Toyota Corolla Altis
Mazda 3
รูปร่างหน้าตา 5
4
4.5
ฟังก์ชัน 5
4
4
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง 5
4
4
ระบบความปลอดภัย 5
4
4.5
ราคา 5
4
4
ศูนย์บริการ 5
5
4
รวม 30
25
25
 แนะนำ ติชม พูดคุย ติดตามข่าวสารรถใหม่ฉับไวก่อนใครกับ Cars New Update ที่นี่!!

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box